อุตุฯ โลกเตือน “ภาวะโลกร้อน” อาจรุนแรงขึ้นอีก เชื่อกิจกรรมมนุษย์สาเหตุหลัก
อุตุฯ โลกเตือน “ภาวะโลกร้อน” อาจรุนแรงขึ้นอีก ผู้เชี่ยวชาญเชื่อสาเหตุหลักเกิดจากกิจกรรมมนุษย์
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาโลก หรือ WMO เตือนว่า ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา เป็นช่วงที่อุณหภูมิร้อนที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้ ขณะที่ ระดับของก๊าซเรือนกระจกที่กำลังเพิ่มมากขึ้น อาจนำไปสู่ภาวะโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นในอนาคต
ในเอกสารข่าวเผยแพร่เมื่อปลายปี 2567 ของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาโลก หรือ WMO ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ ระบุว่า ปี 2567 ที่ผ่านมาเป็นปีที่มีอุณหภูมิร้อนที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้ นอกจากนี้ยังพบว่า ในทศวรรษที่ผ่านมา ถือเป็น 10 ปีที่มีอุณหภูมิร้อนที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้
ส่วนสถานการณ์ในระดับประเทศ ทางสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอินเดีย รายงานว่า ปี 2567 กลายเป็นปีที่ร้อนที่สุดในอินเดียนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2444 / ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเยอรมนี ประกาศว่า ปี 2567 เป็นปีที่ร้อนที่สุดในเยอรมนี นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติระดับประเทศเมื่อปี พ.ศ. 2424
ด้าน ผู้เชี่ยวชาญ เชื่อว่า ภาวะโลกร้อนมีสาเหตุมาจากการทำกิจกรรมของมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล รวมทั้งถ่านหิน, น้ำมัน และก๊าซ เพื่อผลิตไฟฟ้า, การขนส่ง, อุตสาหกรรม และความร้อน ถือเป็นต้นตอหลักของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ทั้งนี้ ปี 2567 ถือเป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำให้เกิดคลื่นความร้อนรุนแรงมากขึ้นในหลายประเทศ รวมถึงญี่ปุ่นที่อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วประเทศเมื่อเดือน ก.ย. 2567 สูงกว่าค่าปกติถึง 2.52 องศาเซลเซียส เป็นตัวเลขสูงสุดอันดับ 2 นับตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติในปี 2441 และเป็นรองจากปี 2566 เท่านั้น
ด้านโคเปอร์นิคัส (Copernicus) ซึ่งเป็นหน่วยงานติดตามสภาพอากาศของสหภาพยุโรปรายงานว่า อุณหภูมิเฉลี่ยที่ผิวโลกในเดือน ส.ค.อยู่ที่ 16.82 องศาเซลเซียส และในเดือน มิ.ย. และส.ค. อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกทะลุเกณฑ์ 1.5 องศาเซลเซียสเหนือค่าเฉลี่ยก่อนยุคอุตสาหกรรม ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ปี 2567 มีอุณหภูมิที่สูงขึ้น มาจากคลื่นความร้อนที่อยู่เหนือมหาสมุทร และการละลายของหิมะและน้ำแข็งในทะเลที่ทำหน้าที่สะท้อนแสงอากาศ
จากข้อมูลสถิติ ยังพบว่า นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2393 จนถึง ปี 2562 มนุษย์ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ 2 ล้าน 4 แสนล้านตัน และอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นประมาณ 1.09 องศาเซลเซียส ซึ่ง 1.07 องศาเซลเซียสเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์
ภาพจาก: AFP
ข่าวแนะนำ