รัฐบาลตั้ง คกก.นำเข้าวัคซีนโควิด ไฟเขียว "เอกชน" หาวัคซีนทางเลือก
ประชุม ศบค.ชุดเล็ก มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการจัดหาวัคซีนเพิ่มอีก 5 ล้านโดส เพื่อเร่งจัดฉีด โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่ปิดกั้นโรงพยาบาลเอกชนนำเข้าวัคซีน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน
วันนี้ (9 เม.ย.64) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังร่วมประชุม ศบค. ชุดเล็ก เพื่อหารือถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า ที่ประชุมได้แต่งตั้ง นพ.ปิยะสกล สัตยาทร ที่ปรึกษาศูนย์ ศบค. เป็นประธานคณะกรรมการจัดหาวัคซีน เพื่อนำเข้าเพิ่มอีก 5 ล้านโดส จากแผนการนำเข้า 35 ล้านโดส เพื่อจัดฉีดให้กับประชาชนเพิ่มขึ้น หรือ 40 ล้านคน โดยในเดือนนี้วัคซีนจะเข้ามาอีก 1.5 ล้านโดส
พร้อมยืนยันการจัดฉีดวัคซีนของไทยไม่ได้ล่าช้ากว่าประเทศอื่นๆ และเมื่อฉีดวัคซีนไปแล้ว ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ติดเชื้อ แต่จะลดความรุนแรงของอาการติดเชื้อให้น้อยลง ขณะเดียวกัน ได้ขอบคุณโรงพยาบาลเอกชนที่พร้อมจะแบ่งเบาภาระของภาครัฐ ด้วยการจัดหาวัคซีนเพื่อเป็นทางเลือก ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้ปิดกั้น แต่ยังมีปัญหาเรื่องการนำเข้า
ด้าน นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า โรงพยาบาลเอกชนเห็นตรงกันว่าอยากให้องค์การอาหารและยา หรือ อย. ขึ้นทะเบียนวัคซีนให้มากขึ้น และนำเข้ามาจำหน่ายให้กับเอกชน เพื่อกระจายการจัดฉีดและเป็นวัคซีนทางเลือก
นพ.เฉลิม ยังชี้แจงกรณีที่โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งประกาศไม่รับตรวจโควิด-19 ว่า ไม่เกี่ยวกับน้ำยาตรวจไม่เพียงพอ หรือติดขัดเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณ แต่มีปัญหาเรื่องเตียงไม่เพียงพอ เนื่องจากมีข้อตกลงว่า หากโรงพยาบาลใดรับตรวจหาเชื้อโควิด-19 จะต้องรับคนไข้ที่มาตรวจไว้ แต่ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อหลายร้อยคนต่อวัน ทำให้เตียงเต็ม ล่าสุดทราบว่ากรุงเทพมหานคร กองทัพบก และกองทัพเรือ เตรียมจะเปิดโรงพยาบาลสนาม ซึ่งน่าจะช่วยแบ่งเบาได้ 3,000 เตียง พร้อมยอมรับว่า สถานการณ์การระบาดในช่วงนี้อันตราย มีอัตราการติดเชื้อสูง ทั้งนี้ หากการจัดการเตียงไม่ดี คนไข้ก็อาจจะต้องกักตัวที่บ้าน ซึ่งอาจทำให้คนที่บ้านติดเชื้อได้