กระทรวงเกษตรฯ ระดมสรรพกำลัง เร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย
ก.เกษตรฯ ระดมทุกหน่วยงานเต็มกำลัง ทั้งเจ้าหน้าที่ เครื่องมือต่าง ๆ และถุงยังชีพ ช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนที่ประสบอุทกภัย พร้อมเร่งฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ศ.ดร.นถุมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความเป็นห่วงเกษตรกรและประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างมาก และตั้งแต่เกิดวิกฤตน้ำท่วมหนักที่จังหวัดเชียงราย ศ.ดร.นถุมล ได้ประสานให้ทุกหน่วยงานภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้าและดูแลประชาชนในทุก ๆ ด้านอย่างเต็มที่
โดย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ร่วมกับมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย อาทิ การมอบถุงยังชีพ ถุงยังชีพปศุสัตว์อาหารสุนัขและแมวสำเร็จรูปบรรจุซอง รวมถึงอาหารกล่อง อาหารแห้ง พร้อมน้ำดื่มให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ 4 จังหวัด (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน)รวม 17,490 ชุด
ในส่วนของที่พักพิงชั่วคราว ได้ใช้พื้นที่ของกรมส่งเสริมการเกษตรเพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนและเกษตรกรที่ประสบปัญหาจากอุทกภัย และศูนย์ส่งเสริม
และพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดเชียงราย (เกษตรที่สูง) ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมพัฒนาอาชีพการเกษตร (พืชสวนเชียงราย) สนับสนุนบุคลากร และจัดเตรียมพื้นที่พักอาศัยชั่วคราวให้แก่ผู้ประสบภัย โดยสามารถรองรับผู้ประสบภัยได้จำนวน 100 คน และที่จอดรถชั่วคราวจำนวน 200 คัน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้แจกเมล็ดพันธุ์พืชผักเช่น ผักบุ้ง คะน้า กวางตุ้ง ให้กับเกษตรกร 48,562 ราย 49,300 ซองและเตรียมหัวเชื้อราไตรโคเดอร์มา 7,560 ขวด และเชื้อราไตรโคเดอร์มาพร้อมใช้ 14,840 กิโลกรัมสำหรับฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรหลังน้ำลด
เช่นเดียวกับกรมปศุสัตว์ ที่ได้ช่วยอพยพสัตว์ 600,399 ตัว รักษาสัตว์ 7,275 ตัว ส่งเสริมสุขภาพสัตว์ 22,842ซอง ถุงยังชีพสัตว์ 187 ถุง หญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน670,430 กิโลกรัม รวมทั้ง จัดตั้งสถานที่พักพิงสัตว์ชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ ปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงของประชาชน โดยมีสัตว์แพทย์ และเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลสุขภาพสัตว์ให้ด้วย
ด้านกรมประมง ได้จัดชุดเฉพาะกิจพร้อมเจ้าหน้าที่ รถยนต์ เรือตรวจการประมง ช่วยนำส่งเสบียงอาหาร น้ำดื่ม และถุงยังชีพ ในพื้นที่ 5 จังหวัดได้แก่ เชียงราย แพร่ พะเยาน่าน สุโขทัย พร้อมทั้ง อพยพประชาชน ผู้ป่วย เด็ก และคนชรา ในพื้นที่ประสบภัยไปสู่พื้นที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ การยางแห่งประเทศไทย ได้มอบถุงยังชีพ จำนวน 855 ถุง มอบปัจจัยที่จำเป็นแก่การดำรงชีพ ได้แก่ ข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม จำนวน 300 ถุง เครื่องปรุง ผักสด เนื้อสัตว์ เพื่อใช่ประกอบอาหาร และมอบน้ำดื่มสะอาด จำนวน 6,960 ขวด อีกทั้งยังได้ประสานงานกับผู้นำชุมชน และเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่รับแจ้ง และสำรวจความเสียหายจากอุทกภัยในเบื้องต้น พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรทราบถึงวิธีการดูแลสวนยางที่ประสบอุทกภัย พร้อมแจ้งรายละเอียดขั้นตอนการขอรับสวัสดิการตามมาตรา 49(5) กรณีสวนยางประสบภัย
กรมฝนหลวงและการบิน ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ รุ่น AS 350 และ BELL 407 และเครื่องบิน ชนิด CN 1 ลำ CASA 2 ลำ และ CN235 1 ลำ เข้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัย พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ลำเลียงถุงยังชีพ สิ่งของ อาหาร และเครื่องดื่ม จากมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า ขึ้นเครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ลำเลียงส่งต่อให้กับพื้นที่ประสบภัยอุทกภัย
และกรมชลประทาน ได้ช่วยเหลือเครื่องมือ เครื่องจักรแล้ว 828 หน่วย แบ่งเป็น เครื่องสูบน้ำ 683 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 73 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 7 คัน เครื่องจักรอื่นๆ 65 หน่วย เพื่อบริหารและจัดการน้ำให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
ที่มาข่าว:tnn
ข่าวแนะนำ