ฉลุย! มติสภาฯ ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณปี 2568

ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติวาระ 3 ด้วยคะแนน...309........ต่อ.....155.........เสียง เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วงเงินงบประมาณกว่า 3 ล้าน 7 แสนล้านบาท  โดยมีผู้งดออกเสียง......4.....คน  // หลังใช้เวลา 3 วัน 3 คืน พิจารณาและอภิปรายฯ จนครบทั้ง 40 มาตรา 

 

 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ในฐานะผู้แทนรัฐบาล กล่าวขอบคุณสมาชิกทุกคนที่ให้ความเห็นชอบกับร่างกฎหมายงบประมาณฉบับนี้ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย แผนแม่บท และแผนพัฒนาชาติ ทำให้ประชาชนเป็นสุข ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ  พร้อมรับข้อสังเกตของสมาชิกไปปรับปรุงให้เกิดประโยชน์ในการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ที่จะเป็นไปอย่างคุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยให้มั่นใจว่าเงินงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติจะเป็นไปตามแนวทาง

ทั้งนี้  มติที่ออกมาสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเอกภาพของรัฐบาลว่ายังคงเหนียวแน่น และเห็นถึงเสียงสนับสนุนของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จากต้นทุนเดิม 314 เสียง ที่ส่งต่อมาจากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน 

ทำให้เสียง สส. ที่สนับสนุนรัฐบาลทั้งในส่วนของพรรคการเมือง และกลุ่มการเมือง ตามพฤตินัยที่ลงมติ มีทั้งหมด 309 เสียง จาก สส.ในสภาทั้งหมดที่เหลืออยู่ขณะนี้ 493 เสียง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดิม 10 พรรค / แต่เพิ่มเติมพรรคประชาธิปัตย์ (ฝ่ายค้านเดิม) เข้ามา และตัดทอนพรรคพลังประชารัฐบางส่วนออกไป

 

ทั้งนี้หากดูการลงมติที่ออกมา พบว่า ผลคะแนนไม่เป็นไปตามคาด  โดย พรรคประชาธิปัตย์ 21 เสียงลงมติให้ความเห็นชอบ โดยที่ 4 เสียง ที่ไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมรัฐบาล ทั้งนายชวน หลีกภัย / นายบัญญัติ บรรทัดฐาน / นายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฎ์ และนายสรรเพชร บุญญามณี สวนมติพรรคด้วยการลงมติงดออกเสียง // ขณะที่ พรรคพลังประชารัฐ พบว่า เสียงของ สส.กลุ่มร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เทให้รัฐบาล 19 เสียง ส่วนกลุ่มของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ ซึ่งโหวตไม่เห็นชอบ รวมกับคนที่ไม่มาลงคะแนน มีทั้งหมด 21 เสียง 

 

ภายหลังการลงมติเสร็จสิ้นประธานได้สั่งปิดการประชุมลงในเวลา 21.57 น.  ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้แล้ว ทางสภาฯ จะส่งร่างฯ ให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาต่อไป โดย สว. จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน ก่อนส่งไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้า ทูลกระหม่อมตามขั้นตอน และประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาให้ทันใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นงบประมาณ 2568