เริ่มแล้ว! คลังแจงสภาฯ ความจำเป็นใช้งบ 1.22 แสนล้านบาท
เริ่มแล้ว ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 1 แสน 2หมื่น 2พัน ล้านบาท รัฐบาลย้ำมีความจำเป็นที่จะต้องนำเม็ดเงินนี้ มากระตุ้นเศรษฐกิจ และอยู่ภายใต้วินัยการเงินการคลัง
วันนี้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 1 แสน 2หมื่น 2พัน ล้านบาท จำนวน 6 มาตรา ในวาระ 2 และ 3 ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมฯ ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน กมธ. พิจารณาเสร็จแล้ว โดยไม่มีการแก้ไขใดๆ
นายพิชัย แถลงสรุปว่า รัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการสร้างความเข้มแข็งในระบบเศรษฐกิจวงเงิน 122,000 ล้านบาท ( หนึ่งแสนสองหมื่นสองพันล้านบาท ) โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญให้ความสำคัญกับผลสำเร็จที่ประชาชนจะได้รับจากการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ต่างๆ บรรเทาภาระค่าชีพยกระดับคุณภาพชีวิต และการดำรงชีพ สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชนและภาคธุรกิจควบคู่กับการรักษาระดับการบริโภคและการลงทุนในประเทศรวมถึงขีดความสามารถในการแข่งขันผ่านโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ต โดยคำนึงถึงสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจตามรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2560 และ พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ยังมีข้อเสนอให้รัฐบาลดำเนินการใช้งบประมาณให้เกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดมีมาตรการในการกำกับดูแลเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการและกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ก่อนหน้านี้ที่ประชุมสภามีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมฯ วาระ 1 ไปเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้เสนอขอแปรญัตติจำนวน 22 คน ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.จากฝ่ายค้าน นำโดยพรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยสร้างไทย ที่ขอสงวนคำแปรญัตติ ในมาตราที่ 4 ที่มีสาระสำคัญ คือการขอตั้งวงเงินงบประมาณเพิ่มเติม
โดยนายนพณัฐ มีรักษา กรรมาธิการเสียงข้างน้อย มีข้อเสนอ ตัดงบประมาณเพิ่มเติม เหลือ 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากยังมีหลักกฎหมายที่จะเสี่ยงต่อการใช้จ่ายเงินงบประมาณ และมีไม่มีการใช้จ่ายในปีงบประมาณ 2567 ดังนั้นย่อมไม่มีเหตุผลในการออกกฎหมายฉบับนี้ และการตรากฎหมาย ก็ไม่ชอบด้วยวินัยการเงินการคลัง
ทั้งนี้ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ระบุว่า เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณา 4 ชั่วโมงจะแล้วเสร็จ มีผู้ที่เสนอแปรญัตติไว้ประมาณ 20 คน และเนื่องด้วยในวาระ 2-3 ผู้ที่ไม่ได้แปรญัตติไว้จะไม่สามารถอภิปรายได้ ดังนั้นเชื่อว่าร่างพระราชบัญญัตินี้จะผ่านความเห็นชอบของสภา
ข่าวแนะนำ