"ชัชชาติ" เปิดตัวรองผู้ว่าฯกทม. ย้ำนโยบายโปร่งใส ลงพื้นที่สัญจรห้ามทำป้ายต้อนรับ

"ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ก่อนแถลงข่าวรับตำแหน่ง เปิดตัว "รองผู่ว่าฯ" เน้นนโยบายไม่คอรัปชั่น เป็นผู้ว่าฯสัญจร ลงพื้นที่ทุกเขต สั่งห้ามทำป้ายต้อนรับ

วันนี้ (1 มิ.ย.65) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ถือฤกษ์เวลา 13.19 น. เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย พระพุทธนวราชบพิตร ศาลพระภูมิ “หลวงปู่มงคลประสาท” ศาลจีน “เจ้าพ่อเพ่งนั้มกิมไช” สักการะพระพุทธชินราช รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ชัชชาติ เปิดตัวรองผู้ว่าฯกทม. ย้ำนโยบายโปร่งใส ลงพื้นที่สัญจรห้ามทำป้ายต้อนรับ

จากนั้นร่วมพิธีส่งมอบงานในหน้าที่ ในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จากนายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ บุคลากรกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธี ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)

โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบประกาศผลรับรองการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แก่ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมลงนามในหนังสือมอบหมายงาน
ชัชชาติ เปิดตัวรองผู้ว่าฯกทม. ย้ำนโยบายโปร่งใส ลงพื้นที่สัญจรห้ามทำป้ายต้อนรับ

ภาพจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์ กทม.

สำหรับ "นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนที่ 17 ได้รับคะแนนเสียงจากการ "เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม." เมื่อวันที่ 22 พ.ค.65 จำนวน 1,386,215 คะแนน และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศรองรับผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครไปเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา

นายชัชชาติ ยังได้มอบนโยบายให้ข้าราชการและลูกจ้าง กทม. โดยระบุว่าว่า ดีใจที่มีเพื่อนร่วมเดินทางเป็นข้าราชการและลูกจ้าง กทม. อยากให้ช่วยกัน เป็นทีมเดียวกันเพราะส่วนตัวไม่ได้มาเป็นนาย มีอะไรคุยกันได้ บอกได้ถ้าทำอะไรไม่เหมาะ เพราะเป็นคนใหม่ อยากให้ช่วยอ่านนโยบาย เพื่อให้รับคำแนะนำปรุง สามารถเพิ่มได้ หากมีอะไรที่ดี ข้าราชการกทม.เป็นคนเก่ง ใช่นาย พี่น้องประชาชนสั่งให้มา

นายชัชชาติ ยังพูดถึงนโยบายเร่งด่วนที่จะทำหลังเข้ารับตำแหน่งมีทั้งหมด 4 เรื่อง เรื่องแรกเป็นเรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วม เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน, ทางม้าลาย เรื่องหาบเร่แผงลอย และการสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะเรียกบริษัทกรุงเทพธนาคมเข้ามาพูดคุย

พร้อมตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็นงบประมาณปี 2565 ของ กทม.ที่เหลือไม่ถึง 100 ล้านบาท จะจัดสรรงบประมาณอย่างไรให้พอดี นายชัชชาติ ระบุว่าไม่กังวลเรื่องงบประมาณเพราะนโยบาย 214 ข้อ มีหลายเรื่องที่ใช้งบประมาณน้อย

สามารถเดินหน้าได้เลย เช่น การใช้แอปพลิเคชัน เป็นช่องทางร้องเรียนให้คนกรุงเทพฯ ส่วนนโยบายที่จำเป็นต้องใช้งบประมาณสามารถที่จะรองบประมาณปี 2566 ได้ รวมถึง กทม.ยังมีเงินสะสมกว่า 1 หมื่นล้านบาทที่สามารถเบิกเป็นงบฉุกเฉินได้

ส่วนการเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร๋โอชา นายกรัฐมนตรี นายชัชชาติ ระบุว่ายังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะยังไม่รู้จะคุยอะไร ขอโฟกัสเรื่องงานในท้องถิ่นก่อน เพราะตนได้รับเลือกตั้งให้มาทำงานในท้องถิ่น และหากจะพูดคุยก็จะทำตามลำดับขั้น คือเข้าพบ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ส่วนประเด็นที่มีการเปรียบเทียบรัศมีทางการเมืองระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าฯ กทม.นายชัชชาติ ยืนยันว่าเป็นมวยคนละชั้น ซี่งตนเองคือระดับท้องถิ่น แต่นายกรัฐมนตรีเป็นระดับรัฐบาลที่บริหารงานทั้งประเทศ ซึ่งเชื่อว่าไม่มีรอยต่อในการทำงานแน่นอน

และยังฝากถึงข้าราชการ กทม.ที่ทำงานมานาน นายชัชชาติ รับประกันว่าจะให้ความเป็นธรรมในการบรรจุแต่งตั้ง โดยจะเชิญองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นเข้ามาร่วมหารือถึงประเด็นนี้ในสัปดาห์หน้า

ส่วนเรื่องการย้ายศาลาว่าการ กทม.ไปรวมไว้ที่ กทม.2 ดินแดง ยังเป็นแนวคิดที่ตัองตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาข้อดีและข้อเสีย โดยจะต้องมองภาพใหญ่และนึกถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก

"ผมเป็นคนตื่นเช้า ใครมีกิจวัตรที่ทำ เป็นประจำวัน ก็ทำเป็นปกติ เพราไปไหนจะไม่บอกล่วงหน้าไม่ต้องเกรงใจ แต่ห้ามมีป้ายต้อนรับ เน้นเรียบง่ายอย่าทำให้ประชาชนเดือดร้อน มีนโยบายเป็นผู้ว่าฯสัญจร ลงพื้นที่ทุกเขต ทุกสำนัก ปลูกต้นไม้ล้านต้น ดูแลน้ำท่วมซ้ำซาก หาบเร่แผงลอย และจุดที่มีปัญหาจราจร" ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวย้ำ