ตกงานไม่ท้อ! หันเลี้ยงหนูนา ส่งขาย สร้างรายได้งาม
อดีตหนุ่มโรงงานไม่ท้อ หันมาเพาะเลี้ยงหนูนาในท่อซีเมนต์ส่งขาย หลังตกงานจากโควิดระบาด มีรายได้นับหมื่นบาทต่อเดือน
13 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ฟาร์มเลี้ยงหนูนา บ้านหัวนาคำพัฒนา หมูที่ 3 ตำบลห้วยแคน อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา นายสมเกรียติ สุคำทา อายุ 34 ปี อดีตพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ถูกเลิกจ้าง ไม่มีงานทำ หลังจากโรงงานได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงต้องหาอาชีพเสริมเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยได้หันมาทำฟาร์มหนูนาขาย สร้างรายได้
ซึ่งนายสมเกรียติ ฯ เปิดเผยว่า ในอดีตตามท้องไร่ท้องนา จะมีหนูนาหรือหนูพุกอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านนิยมจับมาทำเป็นอาหารรับประทาน แต่ปัจจุบัน มีการใช้สารเคมีทำนากันมากขึ้น จึงทำให้หนูนาที่อยู่ตามธรรมชาติเริ่มลดน้อยลง ตนจึงผุดไอเดียเลี้ยงหนูนาเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว หลังจากถูกเลิกจ้าง โดยหาข้อมูลการเพาะเลี้ยงในอินเตอร์เน็ต สั่งซื้อพ่อแม่พันธุ์หนูนาพันธุ์ใหญ่จากชาวบ้านที่จับมาได้ ทดลองเพาะเลี้ยงดู ปรากฏว่า สามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว จนปัจจุบัน มีหนูนาที่เพาะเลี้ยงอยู่กว่า 400 ตัว ซึ่งการเลี้ยงหนูนาใช้พื้นที่ไม่มาก สามารถเลี้ยงในท่อซีเมนต์ได้ แค่ก่ออิฐให้หนูอยู่ในพื้นที่จำกัด เลี้ยงเป็นคู่ไว้ประมาณ 25 วัน หนูก็จะผสมพันธุ์และเริ่มตั้งท้อง ซึ่งแม่พันธุ์ 1 ตัว จะออกลูกประมาณ 8-10 ตัว จากนั้น 4 เดือน หนูนาก็จะตัวโตเต็มที่ มีน้ำหนักประมาณตัวละ 5-6 ขีด สามารถจับขายได้เลย
สำหรับการเลี้ยงหนูนา 1 ตัว จะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 50 บาท หากขายเป็นหนูเนื้อ จะได้ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 200-250 บาท แต่ถ้าขายเป็นพ่อแม่พันธุ์ ก็จะได้ราคาดีกว่า ตกคู่ละ 800 บาท จึงถือว่าได้กำไรสูงมาก ขณะที่ความต้องการของตลาดก็มากเช่นกัน โดยเฉพาะร้านอาหารป่าและกลุ่มผู้ชื่นชอบรับประทานหนูนา จึงทำให้มีรายได้จากการขายหนูนาตกเดือนละกว่า 1 หมื่นบาทเลยทีเดียว นับเป็นอาชีพที่ช่วยสร้างรายได้อย่างดีให้กับครอบครัว ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ที่ยังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้