สามีถูกหวย 12 ล้าน ขึ้นเงินเสร็จ ล่องหน!
หญิงร้องทนายรณณรงค์ ช่วยหลังสามีที่อยู่กินกัน ถูกรางวัลที่ 1 รับ 12 ล้าน และหายตัวติดต่อไม่ได้
วันที่ 30 พฤษภาคม 2563 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.ณัฐนันท์ หรือ แอ๊ด (สงวนนามสกุล)อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/234 ถ.สแกงาม แขวงแสมดำเขตบางขุนเทียน กรุงเทพ เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ช่วยติดตามเงินที่ได้จากการถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 ก.พ.63 เลข 589227 เป็นเงิน 12 ล้านบาท แล้วถูกสามีคือนายวรายุ หรือแป๊ะ อายุ 51 ปี นำไปขึ้นรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.สนามบินน้ำ อ.เมือง จ.นนทบุรี และบล๊อกโทรศัพท์ ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
น.ส.แอ๊ด เล่าด้วยความขื่นขมว่า ตนเองทำอาชีพค้าขาย รู้จักกับนายแป๊ะเมื่อปี 61 ขณะว่าจ้างแท็กซี่ให้ไปส่ง จากนั้นก็ติดต่อกันมาจนเกิดความรักใคร่ จนกระทั่งนายแป๊ะย้ายมาอยู่กินกับตนฉันท์สามีภรรยา ตนเลยให้เลิกขับแท็กซี่และมาช่วยขับรถให้ตนเอง และตนจะให้เงินสามีใช้วันละ 500 -1,000 บาท โดยอยู่กินกันมานานกว่า 2 ปี รักใคร่กันดูแลกันตลอดมา
จนกระทั่งได้มีโอกาสไปส่งสินค้าที่จังหวัดราชบุรี ตนและสามีเลยแวะทำบุญกันที่วัดพระศรีอาน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี โดยสามีได้เช่าพระที่วัดด้วย หลังจากนั้นตนกับสามีจึงแวะซื้อสลากกินแบ่ง จำนวน 5 คู่ โดยนายแป๊ะสามีบอกให้ซื้อเลขที่ลงท้าย 27 เพราะได้มาจากซื้อซองใบ้หวย ตนเองจึงควักเงิน 500 บาท ซื้อเลขท้าย 2 ตัวที่ลงท้ายด้วย 27 มา 5 คู่ และให้สามีเก็บไว้
จนกระทั่งงวดวันที่ 1 ก.พ.63 รางวัลที่ 1 คือหมายเลข 589227 ตนเองก็ยุ่งอยู่กับงาน มาวันที่ 7 ก.พ.63 ตนกับสามีไปงานบวชหลาน สามีก็มากระซิบตนว่าเขาถูกรางวัลที่ 1 สองใบนะ ไปขึ้นเงินเป็นแคชเชียร์เช็คมาแล้วเทื่อวันที่ 3 ก.พ.63 ที่ผ่านมา ต่อไปเราสองคนจะไม่ลำบากแล้ว จะใช้หนี้ให้ตนเองที่กู้ธนาคารมาทำการค้า โดยสามีเปิดมือถือโชว์แคชเชียร์เช็คเงินสด 11 ล้านเก้าแสนสี่หมื่นบาทให้ดู ตนจึงขอถ่ายเก็บไว้ในมือถือตนเป็นหลักฐานด้วย
หลังจากได้เป็นเงินสดมาแล้วสามีได้ให้เงินตนเองมา 400,000 บาท เพื่อไปปิดรถเก๋งที่ไฟแนนซ์ จนกระทั่งต้นเดือนพฤษภาคม 63 ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา สามีได้เก็บเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวกลับบ้านที่จังหวัดสุโขทัย และบล๊อคโทรศัพท์ตนเองหายหน้าไปเลย ตนเองเชื่อว่าเขาคงจะเก็บเงินไว้คนเดียวไม่แบ่งให้กับตนเองแน่แล้ว จึงมาร้องขอความช่วยเหลือจากทนายรณณรงค์
ขณะที่ทนายรณณรงค์เอง ได้แนะนำให้นางสาวแอ๊ดพยายามรวบรวมหลักฐานภาพถ่ายการอยู่กินกันที่ผ่านมา รวมทั้งหาพยานมายืนยันว่าเป็นสามีภรรยากันจริง พร้อมทั้งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คดีนี้แม้ทั้งคู่จะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นสามีภรรยากันจริง ใช้เงินกระเป๋าเดี๋ยวกันจริง เงินที่ถูกรางวัลมาต้องแบ่งกันคนละครึ่งตามกฎหมาย คดีนี้ต้องให้ภรรยาแจ้งความเอาผิดกับสามีก่อน ในข้อหาฉ้อโกงไม่เช่นนั้นเดี๋ยวจะหมดอายุความ ไม่ยุ่งยากเหมือนรายอื่นๆที่ผ่านมา เพราะเป็นการถูกรางวัลจริง ไม่ใช่คนนี้อางเก็บได้ คนนั้นอ้างเป็นคนซื้อ ขอให้ภรรยารายนี้นำหลักฐานมาให้เพิ่มเติมตนจะพาเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเองทนายคนดังกล่าว