ฝนตกหนัก! ผู้ว่าฯ เชียงใหม่สั่งรับมืออุทกภัย เปิด 12 จุดเสี่ยงน้ำท่วมขังซ้ำซาก
ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ถกวางแผนและเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยจากฝนตกหนัก สั่งเฝ้าระวัง 12 จุดเสี่ยงน้ำท่วมขังซ้ำซาก
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมคณะกรรมการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย วางแผนและเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยจากฝนตกหนักในเมืองที่ผลกระทบกับประชาชนและการเดินทาง
โดยคณะกรรมการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะมีการกำชับเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขังซ้ำซาก 12 แห่ง ได้แก่
-บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น ตรงข้ามเซ็นทรัลพลาซ่าแอร์พอร์ต
-ถนนโชตนา บริเวณหน้าสนามกอล์ฟลานนา
-ถนนห้วยแก้วและช่างเคี่ยน
-บริเวณหลังโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ
-บริเวณสี่แยกตลาดต้นพยอม
-ตลาดประตูก้อมและชุมชนศรีปิงเมือง
-สี่แยกข่วงสิงห์ บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
-บริเวณประตูน้ำดอนชัย พื้นที่เทศบาลตำบลป่าแดด
-บริเวณสี่แยกบิ๊กซีแม่เหียะ โรงเรียนสารสาสน์ล้านนา
-ชุมชนหมู่บ้านดาราวดี
-บริเวณหน้ากองพันสัตว์ต่าง อ.แม่ริม
-บริเวณหน้ากาดฝรั่ง อ.หางดง
ซึ่งในที่ประชุมได้หารือเน้นการเปิดและขยายทางระบายน้ำลงสู่ลำน้ำธรรมชาติ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำและเตรียมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพื่อเร่งระบายน้ำกรณีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน ลดความเดือดร้อนและผลกระทบต่อประชาชน
ทั้งนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้กำหนดมาตรการฤดูฝนปี 2567 ที่มีทั้งการ อาทิ ชี้เป้าและแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและพื้นที่เสี่ยงฝนทิ้งช่วง , เตรียมความพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือ ระบบระบายน้ำ ระบบโทรมาตร บุคลากรประจำพื้นที่เสี่ยงและศูนย์อพยพให้สามารถรองรับสถานการณ์ในช่วงน้ำหลาก พร้อมตรวจสอบติดตามความมั่นคงความปลอดภัยคันกั้นน้ำ พนังกั้นน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของทางน้ำอย่างเป็นระบบ , ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ ตั้งศูนย์ส่วนหน้าก่อนเกิดภัยและฟื้นฟูสภาพให้กลับสู่สภาพปกติ
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยังมอบนโยบายในการรับมือฤดูฝน แบ่งเป็นพื้นที่ป่า เมือง ชุมชนเทศบาลฯ และทางหลวง โดยน้อมนำพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "ทำให้น้ำมีที่อยู่ และน้ำมีที่ไป" และเน้นย้ำให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำอาคารชลศาสตร์และสถานีโทรมาตรให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและสามารถนำมาใช้ช่วยเหลือได้ทันสถานการณ์ พร้อมทั้งขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารสถานการณ์ และเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ข่าวแนะนำ