ไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมี "นายกฯ" ห่วงใยปชช. สั่งเร่งหาสาเหตุ
นายกฯ ห่วงใยประชาชนในพื้นที่อยุธยา หลังเกิดไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมี ล่าสุดคุมเพลิงได้แล้ว แนะสวมหน้ากากอนามัย สั่งเร่งหาสาเหตุ
นายกฯ ห่วงใยประชาชนในพื้นที่อยุธยา หลังเกิดไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมี ล่าสุดคุมเพลิงได้แล้ว แนะสวมหน้ากากอนามัย สั่งเร่งหาสาเหตุ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยต่อสถานการณ์ เพลิงไหม้โรงงานเก็บสารเคมี หมู่ที่ 2 ตำบลภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสั่งการให้ ผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือให้ความปลอดภัยประชาชน ควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ
โดยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนที่อาศัยอยู่ บริเวณดังกล่าวและบริเวณใกล้เคียง เตือนให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย และออกมาอยู่ในที่โล่ง เพื่อป้องกันอันตรายจากกลุ่มควันที่ฟุ้งกระจาย ซึ่งขณะนี้ควบคุมเพลิงได้แล้ว
“นายกรัฐมนตรีสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือดูแลประชาชนที่พักอาศัยบริเวณใกล้เคียง ไม่ให้ได้รับอันตรายและผลกระทบ พร้อมสั่งการหาสาเหตุ แก้ไขสถานการณ์โดยด่วน” นายชัย กล่าว
สำหรับเหตุการณ์ เกิดขึ้อเมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ โกดังเก็บสารเคมี ในพื้นที่อำเภอภาชี ตั้งอยู่ ริมถนนสายอุทัย – ภาชี หมู่ที่ 2 ตำบลภาชี อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมประสาน นาย นพดล พลซื่อ นายอำเภอภาชี นายสเกน จันทร์ผดุงสุข นายก เทศมนตรีอำเภอภาชี หัวหน้าป้องกันบรรเทาสาธาณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมประสานรถน้ำกว่า 20 คัน และรถโฟม ลงพื้นที่พร้อม ร่วมกันวางแผน ในการเข้าดับเพลิงครั้งนี้
เนื่องจากด้านใน โกดังกล่าวเป็นโกดังเก็บสารเคมี และไม่ทราบว่าเป็นสารเคมีชนิดใด ซึ่งภายในโกดังมีทั้งแสงเพลิงและกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งบนท้องฟ้าจำนวนมากและส่งกลิ่นเหม็น เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันวางแผนกับเจ้าหน้าที่ชุดดับเพลิง โดยมีการแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าจำนวน 6 นาย พร้อมสวมชุดเครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากอากาศด้านใน มีน้อย เข้าไปสำรวจด้านในเพื่อวางแผนดับเพลิง
จากการสำรวจด้านภายพบว่าจุดเพลิงไหม้อยู่บริเวณกลางโกดัง และไหม้กากพัสดุซึ่งเป็นสารเคมี มีทั้งของแข็งและของเหลว เจ้าหน้าที่ดับเพลิง จึงใช้โฟมเข้าทำการดับเพลิง ซึ่งทำให้แสงเพลิงเริ่มน้อยลงแต่ก็ก็ยังไม่สามารถดับเพลิงได้จึงได้ประสานทั้งรถน้ำและรถดับเพลิงเข้ามาสแตนด์บายรอเพื่อควบคุมสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้ ทางเทศบาลภาชีได้มีประกาศเสียงตามสายแจ้งเตือนประชาชน หากผู้ใดได้รับผลกระทบจากกลิ่นของสารเคมีให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหายใจไม่ออกให้ออกมานอกบ้านและอยู่ในที่โล่ง ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงว่ามีประชาชน ได้รับผลกระทบจากกลิ่นของสารเคมีดังกล่าว
สำหรับโกดังดังกล่าวเป็นโกดังร้าง ซึ่งมีผู้ลักลอบนำสารเคมีมาเก็บไว้ จนมีชาวบ้านร้องเรียนจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ พบว่ามีการลักลอบเก็บสารเคมี 4,000 ตัน 5 โกดัง มีการตรวจยึดเป็นของกลาง คดีอาญาที่ สภ.ภาชีและอยู่ระหว่างรอทำลาย
เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ได้ ต้องรอให้เพลิงดับสนิทก่อนประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานพร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อหาสาเหตุอีกครั้งต่อไป
ที่มา รัฐบาล / ผู้สื่อข่าวอยุธยา
ข่าวแนะนำ