เขื่อนป่าสักฯ วิกฤต ระดับน้ำเกินความจุแล้ว จับตา! เจ้าพระยาระดับน้ำสูง
กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ เตือนประชาชนริมน้ำเจ้าพระยาให้รับมือกับระดับน้ำที่เพิ่มสูงกว่าปกติ จาก 3 ปัจจัย ทั้ง น้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน และน้ำฝน ขณะที่สถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์วันนี้ ถือว่าวิกฤต ปริมาณน้ำเกินความจุอ่างเก็บน้ำแล้ว พื้นที่ท้ายเขื่อนเริ่มได้รับผลกระทบ
กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำ ในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ประจำวันนี้ (5 ต.ค.) พบว่ปริมาณน้ำในอ่างฯเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน และเกินความจุอ่างฯไปแล้ว โดยปริมาณเก็บกักน้ำสูงสุด อยู่ที่ 960 ล้าน ลูกบาศก์เมตร แต่วันนี้ ประมาณน้ำในอ่างฯอยู่ที่ 1,014 .15 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็น 105.64 % ดังนั้นจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำในเขื่อนป่าชลสิทธิ์ ข้อมูลเมื่อวานนี้ ระบายน้ำอยู่ที่ 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ส่วนวันนี้ 5 ตุลาคม ระบายน้ำเพิ่มมาที่ 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลกระทบบริเวณท้ายเขื่อนที่อยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ทั้งจังหวัดลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา
จากการที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มการระบาย ทำให้เขื่อนพระรามหก จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเขื่อนทดน้ำ จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำเช่นเดียวกัน โดยวันนี้ (5ต.ค.)มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 983 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานที่ 906 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้น บางจุดอาจสูงตั้งแต่ 40 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร และมวลน้ำก้อนนี้ จะไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าวัดพนัญเชิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา
ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท วันนี้ปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ 2,697 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ อยู่ที 2,681 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งถือว่าเป็นการระบายน้ำที่อยู่ในเกณฑ์ ที่ไม่เกิน 2,700 – 2,800 ลูกบาศกส์เมตรต่อวินาที เพื่อลดผลกระทบบริเวณท้ายเขื่อนจังหวัดลุ่มเจ้าพระยา เนื่องจากช่วงนี้จะมีน้ำทะเลหนุนสูงด้วย
ภาพ TNNOnline ผู้สื่อข่าว จ.ลพบุรี