ครบ 2 ปีเหตุ "จ่าคลั่ง" กราดยิงโคราช ดับ 9 ศพ วัดป่าศรัทธารวม

9 ก.พ.65   เวลา 14.30 น. ที่ศาลาการเปรียญ วัดป่าศรัทธารวม ต.หัวทะเล อ.เมืองนครราชสีมา  ทางจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดนครราชสีมา และกองทัพภาคที่ 2 ได้จัดให้มีพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศส่วนกุลให้กับผู้เสียชีวิต ครบรอบ 2 ปีจากเหตุการณ์จ่าคลั่งกราดยิง เมื่อวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งวัดป่าศรัทธารวม โดยได้นิมนต์ หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม เจ้าอาวาสวัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์  และมีพระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เจ้าอาวาสวัดบึงพระอารามหลวง และคณะสงฆ์ พล.ต.สมบัติ อินทรศรี รองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยนายสมเกียรติ์ วิริยกุลนันท์ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ,ผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบที่ 2  ข้าราชการ ทหาร ญาติผู้เสียชีวิต พุทธศาสนิกชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล อุทิศให้กับผู้เสียชีวิตเหตุกราดยิงในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

โดยพิธีบำเพ็ญกุศลเริ่มในเวลา 14.30 น.ประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย , พุทธศาสนิกชนกล่าวบูชาพระรัตนตรัย ,กล่าวอาราธนาศีล อาราธนาธรรม , พระสงฆ์แสดงธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ ก่อนจะทำพิธีทอดผ้าบังสุกุล , พระสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุล สวดอนุโมทนา กรวดน้ำรับพร และกราบลาพระรัตนตรัย จึงเป็นอันเสร็จพิธี ซึ่งทางวัดฯ จัดพิธีแบบนิว นอร์มอล ตามมาตรการป้องกันโควิด 19 จัดเก้าอี้เว้นระยะห่างทั้งภายในและภายนอกศาลาการเปรียญ พร้อมติดตั้งจอโทรทัศน์ถ่ายทอดสัญญาณภาพให้ประชาชนที่ร่วมงาน ได้รับชมบริเวณเต็นท์ด้านนอกด้วย

สำหรับเหตุการณ์จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา สังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ นครราชสีมา ก่อเหตุกราดยิง เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 เวลาประมาณ 15.00 น. ใช้อาวุธปืนยิง พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ ผู้บังคับบัญชา และนางอนงค์ มิตรจันทร์ แม่ยายของผู้บังคับบัญชา จนเสียชีวิต จากปมขัดแย้งเรื่องบ้านพักทหาร ก่อนที่จะเข้าไปกราดยิงที่หน่วยของตน เพื่อเอาอาวุธที่คลังอาวุธและยิงเจ้าหน้าที่เวรเสียชีวิต จากนั้น ขโมยรถฮัมวี่ออกมาจากหน่วย แล้วไปกราดยิงประชาชนจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย สุดท้ายหลบหนีเข้าไปในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ทำให้มีประชาชนและพนักงานของห้างฯ ติดอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก ซึ่งระหว่างเจ้าหน้าที่ฯ พยายามช่วยเหลือตัวประกันนานหลายชั่วโมง ได้เกิดเสียงปืนจากการต่อสู้ของเจ้าหน้าที่และคนร้ายดังเป็นระยะๆ จนเช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 09.00 น. จ.ส.อ.จักรพันธ์ฯ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ฯ วิสามัญเสียชีวิตบริเวณชั้นล่างของห้างฯ  ก่อนจะช่วยเหลือตัวประกันที่เหลือออกมาได้สำเร็จ มีเหยื่อเสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่จังหวัดนครราชสีมา รวม 88 ราย

ซึ่งกองทัพบก มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนและฟื้นฟูเยียวยา รวมถึงพิจารณาลงโทษผู้เกี่ยวข้อง โดยเยียวยาใน 2 ลักษณะให้กับผู้เสียชีวิตทั้ง 31 ราย และบาดเจ็บ 57 คน รวม 88 ราย และบรรจุราชการทหาร 31 คน สังกัดกองทัพบก 26 คน ,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 4 คน และพนักงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟ 1 คน  ส่วนผู้ก่อเหตุและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบด้วย จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ผู้ก่อเหตุ , พ.อ.อนันต์ฐโรจน์  กระแสร์, นางอนงค์ มิตรจันทร์ และนายพิทยา แก้วพรหม จะไม่ได้รับการเยียวยา  ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนปลดประจำการถอดยศ ถึงแม้จะเสียชีวิตไปแล้ว ก็จะไม่ได้รับสิทธิตามระเบียบบำเหน็จตกทอด ทั้ง จ.ส.อ.จักรพันธ์ฯ  และพ.อ.อนันต์ฐโรจน์ฯ

ในขณะที่ผู้บังคับบัญชาประจำหน่วยกองทัพภาคที่ 2 และผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ถูกปรับย้ายมาประจำตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิ ประจำกองทัพบก และกองทัพบกยังปรับปรุงระเบียบการรักษาความปลอดภัยคลังอาวุธ กับปรับปรุงระบบสวัสดิการกองทัพ ให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งสวัสดิการภายในต่างๆ ของทหารทุกระดับด้วย

ภาพ : ผู้สื่อข่าว จ.นครราชสีมา