

สรุปข่าว
EYELINK VISION บริษัทนำเข้าแว่นตาชั้นนำเปิดเผยข้อมูลมองว่าในปัจจุบัน
มูลค่าตลาดแว่นตาค้าปลีกในไทย ปี 2566
7,350 ล้านบาท
อัตราเฉลี่ยเติบโตต่อปี (CAGR) 2556-2566
5%
ร้านแว่นตาค้าปลีก
5,000 ร้าน
เงินลงทุนเปิดร้านแว่นตาค้าปลีก
8 ล้านบาทต่อสาขา
การทำตลาดแว่นตาของไทยแบ่งเป็น
1. แว่นแฟชั่น เช่น Dior, Givenchy,, Shihouette, Kenzo
2. แว่นตาฟังก์ชันนอล เช่น ic!berlin, Off White, Palm Angels, Porsche Design
เนื่องจากตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมามีการ Work from home มากขึ้น ทำให้เป็นสาเหตุให้ผู้บริโภคอยู่หน้าคอมพิวเตอร์มากขึ้น จึงทำให้การใช้งานเลนส์ และแว่นตาเพิ่มจำนวนมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้ร้านแว่นตาในไทยเติบโตขึ้นถึง
ร้อยละ 15 โดยยอดขายแว่นตาแบรนด์ที่ขายดีที่สุด 3 อันดับแรกคือ 1. ic!berlin 2. Dior 3. Shihouette
ไทยเป็นตลาดแว่นตาแบบฟังก์ชั่นนอลที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เพราะ EYELINK VISION เข้ามาทำการตลาดมากว่า 20 ปี และ Ray-ban ถือว่าเป็นแบรนด์แว่นตาแฟชั่นที่มีส่วนแบ่งในไทยมากที่สุดในปัจจุบันนี้
ร้านแว่นตารายใหญ่ในประเทศไทย
- ท็อปเจริญ 1,750 สาขา
- KT OPTIC 160 สาขา
- Better Vision (หอแว่น) 110 สาขา
ผลประกอบการเชนร้านแว่นตา
- บริษัทร่วมเจริญพัฒนา จำกัด (ท็อปเจริญ) รายได้รวมปี 2565 : 5,414 ล้านบาท กำไรสุทธิ : 626 ล้านบาท
- บริษัทกรุงไทยออพติค จำกัด (ท็อปเจริญ) รายได้รวมปี 2565 : 924 ล้านบาท กำไรสุทธิ : 18 ล้านบาท
- บริษัทหอแว่นกรุ๊ป จำกัด (หอแว่น) รายได้รวมปี 2564 : 741 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ : -114 ล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้คนสมัยนี้ตัดแว่นกันมากขึ้นเป็นเพราะ เด็กยุคปัจจุบันในเอเชียเล่นมือถือ เล่นเกมส์ ใช้คอมพิวเตอร์ต่อวัน นานหลายชั่วโมง เฉลี่ย 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยอนามัยโลกแนะนำว่าควรใช้มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ เฉลี่ยไม่ควรเกิน 16 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และยังประเมินอีกว่าเด็กไทยอายุ 8-13 ปี กำลังมีปัญหาสายตาสั้น โดยไทยเป็นประเทศส่งออกเลนส์แว่นตามากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากประเทศจีน
ที่มาข้อมูล : -