คนไข้ไขมันสูง เลือดหนืด กลายเป็นสีน้ำนม อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต

เพจเฟซบุ๊ค Tensia ซึ่งมีผู้ติดตามมมากกว่า 30,000 คน เผยภาพชวนตกตะลึงของหลอดเก็บเลือดคนไข้ที่มีภาวะไขมันไตรกลีเซอไรด์สูง ทำให้เลือดหนืดเป็นสีน้ำนม 

โดยได้ว่าเป็นภาพที่ได้จากรายงานกรณีศึกษา หัวข้อ “ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงอาจเป็นสาเหตุของอาการโคม่า” (Hypertriglyceridemia as a possible cause of coma: A case report) 

เผยว่า เลือดตัวอย่างนี้เป็นของคนไข้ที่หมดสติอาการโคม่า เมื่อเจาะเลือดมาตรวจพบมีไตรกลีเซอไรด์สูงถึง 15,000 mg/dl (ปกติในผู้ใหญ่จะไม่เกิน 15,000 mg/dl) ส่งผลให้เลือดมีลักษณะหนืดและเป็นสีน้ำนม

ในเลือดนี้เต็มไปด้วยตัวขนส่งไขมันชื่อ  "ไคโลไมครอน" กับ "VLDL" ที่บรรจุไขมันไตรกลีเซอไรด์แบบเต็มอัตรา จนกระทั่งดูดกลืนแสงจนออกมาสีคล้ายกับน้ำนม บดบังสีจากฮีโมโกลบิน 

โดยไขมันไตรกลีเซอไรด์ที่เจาะอดอาหาร 8 ชั่วโมงขึ้นไป (Fasting TG) หากมากกว่า 500 mg/dl จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน(Acute pancreatits)

อดอาหารยังเท่านี้ มีสิทธิ์ที่หลังอาหารจะทะยานไปสูงกว่า 1,000 ซึ่ง ไตรกลีเซอไรด์ที่สูงมากนี้เหมือนเชื้อเพลิง เพราะตับอ่อนมีเอนไซม์ชื่อ lipase คอยย่อย ซึ่งปกติจะส่งไปในลำไส้แล้วย่อยอาหาร

แต่ในคนปกติจะมีเอนไซม์นี้รั่วออกมานิดๆ อยู่แล้ว ยิ่งในคนที่ตับอ่อนโดนทำร้ายอยู่แล้ว เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ ยิ่งรั่วเยอะ 

ผลคือเอนไซม์ Lipase ที่รั่วออกมา ได้เข้าย่อยเชื้อเพลิงไตรกลีเซอไรด์ กลายเป็นกรดไขมันจำนวนมหาศาล ซึ่งเซลล์รอบข้างหากรับมือไม่ทัน มันจะกลายเป็นสารก่ออันตราย ก่ออักเสบมหาศาล

ยิ่งตับอ่อนอักเสบ ก็ยิ่งปล่อยชนวนระเบิด Lipase ก็ยิ่งย่อยเชื้อเพลิงไตรกลีเซอไรด์ ให้เป็นระเบิดกรดไขมันเกิดวนไปค่ะ ตูมตามตูมตาม ดั่งโรงงานประทัดระเบิด จนเกิดตับอ่อนอักเสบจนเยิน ปลดปล่อยน้ำย่อยเข้าสู่เลือดย่อยหลอดเลือดจนอักเสบ น้ำรั่วออกจากหลอดเลือดจนความดันต่ำ ช็อก แล้วเสียชีวิตได้

ดูแลรักษาสุขภาพกันเถอะ คุมการกินอาหาร ออกกำลังกาย ลดความอ้วน เพราะปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไขมันไตรกลีเซอไรด์สูงคือภาวะดื้ออินซูลิน

ที่มา: Tensia

ภาพปก : Tensia/Envato