ช่วงฤดูฝนและลมมรสุม มีฝนตกหนักและลมแรงในบางพื้นที่ ประชาชนควรระมัดระวังการอยู่ในพื้นที่
ช่วงฤดูฝนและลมมรสุม มีฝนตกหนักและลมแรงในบางพื้นที่ ประชาชนควรระมัดระวังการอยู่ในพื้นที่ โล่งแจ้ง ใกล้ต้นไม้สูงใหญ่ หรือป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง เพราะอาจเกิดการหักโค่นล้ม หรือหล่นทับ ทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ ควรวางแผนการเดินทางและสังเกตอาคารที่กำบัง ที่มีความแข็งแรง ปลอดภัย และติดตามพยากรณ์อากาศอย่างสม่ำเสมอ การเดินเรือหรือกิจกรรมทางน้ำควรระวังคลื่นลมแรง หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
ควรตั้งสติและขอความช่วยเหลือ
กรมควบคุมโรค แนะนำให้ประชาชนเตรียมตัวป้องกันอันตรายช่วงลมมรสุม ดังนี้
1.ติดตามพยากรณ์อากาศ
2.สังเกตท้องฟ้า เมื่อเห็นว่าฝนใกล้จะตกให้รีบกลับเข้าบ้านหรือหาที่หลบ
3.ตัดกิ่งไม้หรือต้นไม้ที่มีความเสี่ยงที่จะหัก ซึ่งอาจเกิดอันตรายทำให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ 4.ตรวจสอบบ้านเรือนให้มั่นคงแข็งแรง
5.จัดเก็บสิ่งของในบ้านที่อาจเสียหายหรือปลิวตามกระแสลมได้
6.ติดตั้งสายดินที่อุปกรณ์ไฟฟ้า
7.ตรวจสอบและซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้ารั่ว
8.จัดเตรียมของใช้ที่จำเป็นไว้ใช้ยามฉุกเฉิน เช่น ไฟฉาย ยา อาหารแห้ง
9.วางแผนการเดินทางและสังเกตอาคารที่กำบังที่มีความแข็งแรง ปลอดภัย
10.เมื่อพบเห็นเสาไฟฟ้า ป้ายโฆษณาชำรุด หรือไม่แข็งแรงให้รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 11.หลีกเลี่ยงกิจกรรมทางน้ำหรือการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
12.ระมัดระวังการลงเล่นน้ำบริเวณชายหาดที่มีการเตือนคลื่นทะเลดูด (Rip current)
ในกรณีที่พบพายุฝน-ลมแรง ควรมีการป้องกันตนเองให้ปลอดภัย ดังต่อไปนี้
1.หากอยู่ในบ้านให้รีบปิดประตูและหน้าต่างให้มิดชิด
2.ปลดปลั๊กอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ออก
3.หากอยู่ข้างนอกให้รีบเข้าไปในอาคารหรือที่กำบังที่แข็งแรง
4.หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา เสาไฟฟ้า หรืออาคารที่โครงสร้างที่ไม่แข็งแรง
5.อยู่ห่างจากวัตถุหรือรั้วที่เป็นโลหะ
6.งดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องมือสื่อสาร
7.หากกำลังตกปลาหรือว่ายน้ำให้ขึ้นจากน้ำทันที และออกห่างจากแหล่งน้ำ
8.หากอยู่บนรถให้หาที่จอดที่ปลอดภัย
9.อยู่ภายในอาคารหรือที่กำบังอย่างน้อย 30 นาทีหลังจากพายุฝนได้สงบลง เพราะยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดฟ้าผ่า
10.เมื่อได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถโทรขอความช่วยเหลือได้ที่หมายเลข 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง