ร่างเริงเกินเบอร์ อารมณ์ดีเกิ๊น ก็ป่วยเป็นโรคได้นะ : จิตแพทย์ชวนคุย
โรคไบโพลาร์ ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรง หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ มีความสุข และประสบความสำเร็จในชีวิตได้ อย่าละเลยสัญญาณเตือน รีบปรึกษาแพทย์ เพื่อเริ่มต้นการรักษา และก้าวข้ามโรคไบโพลาร์ไปด้วยกัน
โรคไบโพลาร์: เบื้องหลังรอยยิ้มที่ซ่อนความเศร้า
หลายคนคงคุ้นเคยกับโรคซึมเศร้า แต่รู้หรือไม่ว่า ยังมีโรคทางอารมณ์อีกชนิดที่ส่งผลร้ายแรงไม่แพ้กัน นั่นคือ "โรคไบโพลาร์" หรือ "โรคอารมณ์สองขั้ว" โรคนี้ไม่ได้ทำให้คนป่วยรู้สึกซึมเศร้าอย่างเดียว แต่ยังมี "อารมณ์ดี" ที่สุดโต่งแฝงอยู่ด้วย
ร่าเริงสุดเหวี่ยง เสี่ยงเป็นไบโพลาร์?
คนที่ร่าเริง สนุกสนาน พูดมาก นอนน้อย ชอบทำกิจกรรมหลายอย่างพร้อมกัน ล้วนมี "ความเสี่ยง" ที่จะป่วยเป็นไบโพลาร์
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?
สมองของผู้ป่วยไบโพลาร์มีความผิดปกติของสารสื่อประสาท ทำให้ควบคุมอารมณ์ได้ยาก ส่งผลให้อารมณ์เหวี่ยงไปมาอย่างสุดโต่ง
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นไบโพลาร์?
สัญญาณเตือนที่สำคัญ คือ
- อารมณ์ดี เกินเหตุ รู้สึกมีพลัง มั่นใจ พูดมาก นอนน้อย คิดเร็ว ทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน
- อารมณ์ซึมเศร้า รุนแรง รู้สึกสิ้นหวัง เบื่อหน่าย ไม่อยากทำอะไร ร้องไห้บ่อย นอนหลับยาก
- ความคิดและพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง คิดเร็ว ตัดสินใจโดยไม่รอบคอบ เสี่ยงต่ออันตราย
- สูญเสียการควบคุม หงุดหงิด โมโหร้าย พูดจาข่มขู่ ทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น
หากมีสัญญาณเหล่านี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษา
การรักษาโรคไบโพลาร์
ทำได้โดยใช้ยาควบคุมอารมณ์ ร่วมกับการบำบัดจิต
โรคไบโพลาร์ ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรง หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ มีความสุข และประสบความสำเร็จในชีวิตได้
อย่าละเลยสัญญาณเตือน รีบปรึกษาแพทย์ เพื่อเริ่มต้นการรักษา และก้าวข้ามโรคไบโพลาร์ไปด้วยกัน
ข่าวแนะนำ