TNN อากาศร้อนสุดขีด ‘ฮีทสโตรก’ ทำคนเสียชีวิต 30 ราย แนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้น

TNN

Health

อากาศร้อนสุดขีด ‘ฮีทสโตรก’ ทำคนเสียชีวิต 30 ราย แนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้น

อากาศร้อนสุดขีด ‘ฮีทสโตรก’ ทำคนเสียชีวิต 30 ราย แนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้น

อากาศร้อนสุดขีด กรมอนามัยเผย ‘ฮีทสโตรก’ ระยะเวลา 4 เดือน ทำคนเสียชีวิต 30 ราย แนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกปี

แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์ความร้อนประเทศไทยจากกรมอุตุนิยมวิทยา ในวันที่ 30 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2567 พบว่า ค่าดัชนีความร้อน หรือ Heat Index ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกได้ จำนวน 7 จังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี ตราด ชลบุรี จันทบุรี ที่มีค่าดัชนีความร้อนอยู่ในระดับอันตรายมาก (สีแดง) ซึ่งคาดว่าสภาพอากาศร้อนจัดมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ทำให้เจ็บป่วยและอาจเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่มีภาวะอ้วน ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และผู้ที่ทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน จึงควรเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ค่าดัชนีความร้อนจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง หากค่าดัชนีความร้อนอยู่ในระดับอันตราย (สีส้ม) (42.0 – 51.9 องศาเซลเซียส) ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง


ทั้งนี้จากข้อมูลการเฝ้าระวังการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตด้วยโรค ‘ฮีทสโตรก’ ในช่วงปี 2562 – 2566 พบว่า มีผู้เสียชีวิตสะสม 131 คน เฉลี่ยเป็น 26.1 คน ต่อปี และในข้อมูลปีนี้ 2567 ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนเมษายนพบผู้เสียชีวิตแล้ว 30 คน  และแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานและกลุ่มผู้สูงอายุ  


ด้าน นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 กล่าวเพิ่มเติมว่า  พื้นที่ภkคเหนือขณะนี้พบผู้ป่วยโรงพยาบาลแพร่ สงสัย โรค ‘ฮีทสโตรก’  จำนวน 5 ราย ขณะนี้เสียชีวิตแล้ว จำนวน 1 ราย ขอให้ประชาชนสังเกตอาการเสี่ยงจากโรคลมร้อนหรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) ได้แก่ อุณหภูมิแกนกลางร่างกายสูงขึ้นมากกว่า 40 องศาเซลเซียส ผิวหนังแดงร้อน ชีพจรเต้นเร็วและแรง ปวดศีรษะ สับสน มึนงง คลื่นไส้หรืออาเจียน ความรู้สึกตัวของร่างกายเปลี่ยนไป หมดสติ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้


ทั้งนี้ประชาชนควรดูแลสุขภาพตนเองเพื่อลดความเสี่ยงด้านจากโรคลมร้อนหรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) โดยดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ โดยไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ หรือก่อนออกจากบ้าน ควรดื่มน้ำ 1-2 แก้ว สวมเสื้อผ้าสีอ่อน ระบายอากาศได้ดี หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนจัด หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง และแอลกอฮอล์ หากพบผู้ป่วยโรคฮีทสโตรกให้รีบปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลทันที


ภาพจาก: AFP 

ข่าวแนะนำ