TNN ไวรัส RSV น่ากลัวจริงหรือ? หมอยง เผยติดต่อง่าย ก่อโรคหลอดลมอักเสบ

TNN

Health

ไวรัส RSV น่ากลัวจริงหรือ? หมอยง เผยติดต่อง่าย ก่อโรคหลอดลมอักเสบ

ไวรัส RSV น่ากลัวจริงหรือ? หมอยง เผยติดต่อง่าย ก่อโรคหลอดลมอักเสบ

หมอยง เปิดข้อมูล "ไวรัส RSV" โรคนี้ติดต่อกันได้ง่าย พบได้ทุกอายุ เป็นแล้วเป็นอีกได้ ฤดูกาลของการติดเชื้อจะเริ่มตั้งแต่กรกฎาคมไปสิ้นสุดธันวาคมของทุกปี

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan  โดยระบุว่า  RSV โรคน่ากลัวจริงหรือ ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต 26 เมษายน 2567


ไวรัส RSV ก่อโรคหลอดลมอักเสบ ในบางรายอาจเกิดหลอดลมฝอยอักเสบ ไวรัสนี้ไม่ใช่โรคใหม่ รู้จักกันมานานกว่า 50 ปี โรคนี้ติดต่อกันได้ง่าย พบได้ทุกอายุ เป็นแล้วเป็นอีกได้ เช่นเดียวกับโรคโควิด 19

มีผู้ป่วยจำนวนมากที่เป็นโรคนี้ และไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัย เพราะส่วนใหญ่หายได้เอง


จากการศึกษาของเรา พบว่าผู้ใหญ่เกือบทั้งหมดมีภูมิต้านทานตรวจพบได้ เช่นเดียวกันกับโควิด 19 ในปัจจุบัน แม้จะมีภูมิต้านทานก็ยังติดเชื้อได้ แต่อาการไม่รุนแรง จะไปรุนแรงอีกครั้งหนึ่งเมื่อเป็นผู้สูงวัยและมีโรคประจำตัว


ภูมิต้านทานที่มีอยู่กว่า 90% นี้จะส่งต่อมายังทารกเมื่อแรกเกิด เพื่อปกป้องทารกน้อย และจะลดลงอย่างรวดเร็ว ถึงจุดต่ำสุดที่อายุ 6 เดือน และจะเกิดการติดเชื้อในธรรมชาติ จะมีภูมิเพิ่มขึ้น จนเมื่ออายุ 1-2 ขวบ ส่วนใหญ่ก็จะติดเชื้อกันหมด ดังแสดงในรูป


จุดอ่อนของภูมิต้านทานที่ต่ำอยู่ในช่วง 2 เดือนถึง 1 ปี ก่อนที่จะมีการติดเชื้อโดยธรรมชาติ เมื่อติดเชื้อครั้งที่ 1 แล้ว ปีต่อไปก็สามารถติดเชื้อครั้งที่ 2 ได้และครั้งที่ 3 ได้อีก จากการศึกษาของเราเด็กบางคนเมื่อโตถึงอายุ 5 ปี มีการติดเชื้อ RSV ถึง 4 ครั้งหรือเกือบทุกปี ส่วนใหญ่ติดมากกว่า 1 ครั้ง จึงถือว่าเป็นโรคที่พบบ่อยๆมาก และเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ในอดีต


ในเด็กปกติส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีปัญหา การติดเชื้อครั้งแรกจะมีอาการมากที่สุด และเมื่อติดเชื้อซ้ำอาการก็จะเริ่มน้อยลงน้อยลง จนเข้าสู่วัยเด็กโตหรือผู้ใหญ่ การติดเชื้อจะมีอาการน้อยมาก และติดเชื้อได้ตลอด


เราทำการศึกษาการติดเชื้อซ้ำ ในจำนวน 89 ราย และมี 11 รายที่ติดเชื้อซ้ำถึง 3 ครั้ง พบว่าการติดเชื้อซ้ำถึงแม้จะเป็นสายพันธุ์เดียวกัน เช่น ฑฆฮ A ปีต่อไปก็สามารถติดตัวเดิมได้อีก ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็น RSV B ถึงแม้ว่าสายพันธุ์ย่อยก็พบว่าเป็นสายพันธุ์เดียวกันเช่น ON1 ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นว่าภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้เลย ดังแสดงในรูป


สิ่งที่สำคัญคือสื่อสังคมออนไลน์ และการขยายออกไป ทำให้ RSV ดูน่ากลัว เมื่อกระดาษออกมาว่าเป็น RSV ก็จะขอนอนโรงพยาบาล หรือเกิดความทุกข์ร้อนใจของผู้ปกครองอย่างมาก ที่จริงแล้วโรคนี้ก็เหมือนโรคทางเดินหายใจอื่นๆ มีทั้งมีอาการมากอาการน้อย อย่าประโคมข่าวให้โรคนี้เป็นโรคน่ากลัวเลย


เรามาช่วยกันดูแลกลุ่มเปราะบางเท่านั้น หรือกลุ่มที่เมื่อเป็น RSV แล้วจะรุนแรง โดยเฉพาะเด็กใน 6 เดือนแรก ถึงแม้ว่าจะมีการฉีดวัคซีนในสตรีตั้งครรภ์ โดยส่วนตัวก็เหมือนกับภูมิที่ส่งต่อมาอย่างลูกที่ขณะที่แม่ก็มีอยู่แล้ว และภูมิที่จะลดลงอย่างรวดเร็วอย่างที่เห็นในการศึกษา เมื่อภูมิลดลงจะต้องฉีดภูมิต้านทานให้ตลอดไปอย่างนั้นหรือ ค่าใช้จ่ายต่างๆจะสูงมาก ผู้ที่ไม่สามารถจะออกค่าใช้จ่ายได้ก็จะยิ่งทุกข์ร้อนใหญ่ และทุกสิ่งทุกอย่างยังใหม่อยู่มาก คงต้องรอสักระยะหนึ่ง เช่นเดียวกันกับโควิด 19 จำเป็นที่จะต้องศึกษาข้อมูลของบ้านเราให้ได้อย่างละเอียดก่อน การโปรโมทมาก จะเข้าทางการค้า และจะสร้างความทุกข์ร้อน ให้กับผู้ที่ไม่สามารถที่จะหาเงินมาจ่ายได้


ฤดูกาลของ การติดเชื้อ RSV  จะเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และไปสิ้นสุดในเดือนธันวาคมของทุกปี การป้องกันในช่วงการระบาดสูงสุด เป็นการที่จะป้องกันการติดเชื้อ ในช่วงที่โควิด 19 ระบาดจะไม่อยู่ช่วงหนึ่งที่เรามีมาตรการเข้มแข็ง ผู้ป่วย RSV ก็ลดน้อยลงไปอย่างมาก


อาการของการติดเชื้อไวรัส RSV


ผู้ป่วยมักจะมีอาการ 4 - 6 วันหลังได้รับเชื้อ อาการโดยทั่วไปอาจเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา แต่อาการจำเพาะของเชื้อนี้ที่มักพบในเด็กเล็กคือ หลอดลมฝอยอักเสบ ซึ่งจะทำให้เด็กมีอาการคล้ายหอบหืด อาการที่พบมีดังนี้
- มีไข้ ไอ จาม และน้ำมูก
- รับประทานอาหารได้น้อยลง
- หายใจหอบเหนื่อย อกบุ๋ม ได้ยินเสียงปอดผิดปกติ เสียงหายใจดังวี้ด
- อาจจะพบอาการร้องกวน ซึมลง ในเด็กทารก




ที่มา Yong Poovorawan / รพ.ศิริราชฯ


ข่าวฮิตติดแท็ก

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง