"ตอนเริ่มทำงาน ตัวเราไม่ใหญ่เท่านี้" เกิดจากอะไร ส่วนใหญ่พบในกลุ่มไหน?

นพ.อดุลย์ โพสต์ให้ความรู้ "ตอนเริ่มทำงาน ตัวเราก็ไม่ใหญ่เท่านี้" เผยภาวะอ้วน เกิดจากอะไร จะพบได้ในคนกลุ่มไหน?

ศ.คลินิก นพ.อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์ รองคณบดีฝ่ายสารสนเทศคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก บันทึกเรื่องน่ารู้ by Dr.Adune เรื่อง "ตอนเริ่มทำงานตัวเราก็ไม่ใหญ่เท่านี้"

โดยระบุว่า "สังเกต เห็นคนในที่ทำงาน หลังจากมาเป็นบุคลากรได้ 2-3 ปี มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ลำตัวและแขนขาเป็นปล้องๆ น้ำหนักขึ้น จนน่าจะเรียกได้ว่า เกิน ค่ามาตรฐาน โดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึกอะไร  บางคนบอกว่าก็แถววังหลังมีแต่ของอร่อยและตอนอ้วนขึ้น ก็ไม่รู้ตัว กว่าจะรู้อีกที ก็ได้ หุ่นทรงใหม่แล้ว

ภาวะอ้วน และ น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น หลักใหญ่ๆ คือ กินเกิน ใช้น้อย กินเกิน คือ ภาวะที่อาหารที่กินเข้าไป เกินความจำเป็นที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ใช้น้อย คือ มีกิจกรรมที่ใช้พลังงานน้อยกว่าปกติ ซึ่ง ภาวะเช่นนี้ พบได้ในคนที่นั่งทำงานออฟฟิตเป็นส่วนใหญ่ 

คนที่ทำงาน ออฟฟิต มักจะนั่งอยู่กับโต๊ะมีงานต้องทำต่อเนื่องกันทั้งวัน ทำให้โอกาสที่จะลุก หรือ ไปที่อื่นน้อยมาก ส่วนใหญ่ ก็แค่ไปห้องน้ำ หรือ ไปกินข้าว ขณะเดียวกันเวลานั่งทำงาน มักจะต้องใช้สมอง และ งานที่ใช้สมองจะต้องใช้พลังงานจากน้ำตาล จึงรู้สึกโหย เมื่อทำงานไปได้สัก 1-2 ชั่วโมง 

การเติมน้ำตาล หรือกินอาหารที่เพิ่มน้ำตาลในเลือด เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานที่ต้องใช้สมอง แต่ว่า บ่อยครั้ง จะเกิดภาวะที่ กินเกิน เนื่องจากว่าขณะที่ใช้สมอง หรือ ใจจดจ่ออยู่กับ สิ่งใดสิ่งหนึ่ง อาจจะทำให้ขาดสติ ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ เมื่อมีขนมอยู่ใกล้มือ และ หยิบกินตอนที่เริ่มเติมน้ำตาล ก็หยิบกิน เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ตัวเองไม่รู้ตัวว่ากำลังกินอยู่

เมื่อมีการกินของหวาน นานเข้า นานเข้า ในสมองจะเกิดภาวะที่เรียกว่าเสพติด การเสพติดไม่ได้เกิดกับเฉพาะยาเสพติด แต่กิจกรรม หรือ ของกินอื่นๆ ก็เสพติดได้ไม่ว่าจะเป็น เกมส์ สุรา บุหรี่ หรือ แม้แต่ ติดหวาน

จากข้อมูลพบว่า คนอ้วน เสพติดอาหาร มากถึง 37% เทียบกับคนน้ำหนักปกติ ซึ่ง เสพติดอาหารเพียง 6% หรือมากกว่า ถึง 6 เท่าตัว พอวงจรของ การนั่งทำงานอยู่กับที่ และ มีการกินของว่างซ้ำๆ จนกลายเป็นเสพติด ก็ไม่ต้องแปลกใจว่า น้ำหนักตัว จะขึ้นไปมาก (ส่วนใหญ่มากกว่า 10 กก ใน 1-2 ปี) และ ก็จะสร้างปัญหา ให้กับสุขภาพในเวลาต่อมา

ที่สำคัญมากคือ ไม่รู้ตัว ช่วยกันเตือนนะครับ และคนที่ถูกเตือนก็ช่วยกันฉุกคิด  แก้ไขได้ ลดการกิน เท่าที่จำเป็น (ถ้าจะกินขนม เพื่อเพิ่มน้ำตาล ก็ไม่เอา ขนมทั้งถุงมาไว้ใกล้ๆ แบ่งใส่จาน นิดเดียวก็พอ) และ เริ่มโปรแกรม การออกกำลังกายเลยครับ (อย่าลืม ออกกำลังกายตอนท้องว่าง ไม่ใช่ออกกำลังกายหลังมื้ออาหารขออวยพร ให้ทุกท่านมีสุขภาพดี หุ่นดี"

ภาพจาก AFP