2 อาการป่วย “อหิวาตกโรค” 1 ในโรคคร่าชีวิตคนไทย สร้างตำนาน“แร้งวัดสระเกศ”
เปิด 2 อาการป่วยแบบนี้! เป็น “ อหิวาตกโรค ” แบคทีเรียตัวร้าย 1 ในโรคห่าคร่าชีวิตคนไทย สร้างตำนาน “แร้งวัดสระเกศ”
นับเป็นโรคภัยที่เป็นศัตรูกับมนุษย์มาแต่ครั้งโบราณสำหรับ “ อหิวาตกโรค ” 1 ในโรคห่า ที่เคยคร่าชีวิตคนไทยในอดีตไปเป็นจำนวนมาก โดยในสมัยพ.ศ. 2363 หรือ สมัยรัชกาลที่ 2 เกิด “ อหิวาตกโรค ” ระบาดไปทั่วพระนคร ผู้คนล้มตายมากถึง 30,000 คน ทำให้จัดการเผาศพไม่ทัน จึงกองสุมกันที่วัดสระเกศ จนต้องให้แร้งกามาจิกกิน จนเกิดคำว่า “แร้งวัดสระเกศ” มาถึงปัจจุบัน
ขณะที่วัดที่ปากคลองบางลำพูนั้นศพก็กองสุมกัน บ้างลอยมาตามน้ำ จน เป็นที่สังเวชยิ่งนัก จึงเป็นที่มาของวัด “สังเวชวิศยาราม” จนทุกวันนี้ ซึ่งคนในสมัยนั้นเชื่อกันว่ามีสาเหตุมาจากผี ที่โกรธเคืองที่ไปเอาศิลาใหญ่ในทะเลมาก่อเป็นเขาในวังหลวง จึงทำให้พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ต้องประกอบพระราชพิธีชื่อ “อาพาธพินาศ” มีการยิงปืนใหญ่ตลอดคืนรอบพระนคร ให้ผีกลัว และอัญเชิญพระแก้วมรกตแห่รอบเมือง พร้อมทั้งนิมนต์สมเด็จพระสังฆราช และพระอีก 500 รูป มาสวดพระปริตร เมื่อเสร็จสิ้นพระราชพิธี “อาพาธพินาศ” จึ่งเกิดฝนตกลงมาห่าใหญ่ อหิวาต์ระบาดอยู่ราว 15 วัน จึงค่อยหายไป เรียกได้ว่า ฝนห่าใหญ่ไล่โรคห่า
ในปัจจุบันการเสียชีวิตจาก “ อหิวาตกโรค” ลดลงเนื่องจากระบบสาธารณสุข และ การรักษาสุขอนามัย ของคนยุคปัจจุบันดีขึ้นแต่อย่างไรก็ตาม “ อหิวาตกโรค ” ยังเป็นภัยโรคระบาดที่ยังต้องเฝ้าระวัง โดยเฉพาะในหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึง
“อหิวาตกโรค” เกิดจากอะไร?
อหิวาตกโรคไม่ได้เกิดจากผีตามความเชื่อของคนโบราณ แต่คือ โรคติดต่อที่เกิดขึ้นจากเชื้อแบคทีเรีย เข้าสู่ร่างกายโดยการรับประทานเข้าไป เชื้อจะไปอยู่บริเวณลำไส้ และ สร้างพิษออกมา ทำปฏิกิริยากับเยื่อบุผนังลำไส้เล็ก ทำให้เกิดอาการท้องเดินอย่างมาก อุจจาระเป็นสีน้ำซาวข้าว ร่างกายเสียน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็ว และ รุนแรง อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ผู้ที่ได้รับเชื้อ จะเกิดอาการได้ตั้งแต่ 24 ชั่วโมง ถึง 5 วันโดยเฉลี่ยแล้วจะเกิดอาการภายใน 1 - 2 วัน
อาการของ “อหิวาตกโรค”
1. อาการไม่รุนแรง จะมีการถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำ วันละหลายครั้ง แต่จำนวนอุจจาระไม่เกินวันละ 1 ลิตร ในผู้ใหญ่อาจมีปวดท้องหรือ คลื่นไส้อาเจียนได้
2. อาการรุนแรง ระยะแรก มีท้องเดิน มีเนื้ออุจจาระมาก ต่อมามีลักษณะเป็ฯน้ำซาวข้าว เพราะว่ามีมูกมาก มีกลิ่นเหม็นคาว ถ่ายอุจจาระได้โดยไม่มีอาการปวดท้อง บางครั้งไหลพุ่งออกมาโดยไม่รู้สึกตัว มีอาเจียนโดยไม่คลื่นไส้ อุจจาระออกมากถึง 1 ลิตร ต่อชั่วโมง อาการเหล่านี้ จะหยุดเองใน 1 - 6 วัน ถ้าได้น้ำและเกลือแร่ชดเชยอย่างเพียงพอ แต่ถ้าหากได้น้ำและเกลือแร่ทดแทนไม่ทันกับที่เสียไป จะมีอาการขาดน้ำอย่างมาก ลุกนั่งไม่ไหว ปัสสาวะน้อย หรือไม่มีเลย อาจมีอาการเป็นลม หน้ามืด จนถึงช็อก ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
สาเหตุการป่วย “อหิวาตกโรค”
รับประทานยอาหารหรือน้ำที่มีเชื้ออหิวาตกโรค หรือพิษของเชื้ออหิวาตกโรคปะปนอยู่ เช่น อาหารที่มีแมลงวันตอม อาหารสุกๆ ดิบๆ อาหารกระป๋องที่เสียแล้ว
สิ่งที่ควรทำเมื่อติดเชื้อ “อหิวาตกโรค”
1. งดอาหารที่มีรสจัดหรือเผ็ดร้อน หรือ ของหมักดอง
2. ดื่มน้ำชาแก่แทนน้ำ หรืองดอาหารชั่วคราว เพื่อลดการระคายเคืองในลำไส้
3. ดื่มน้ำเกลือผง สลับกับน้ำต้มสุก ถ้าเป็นเด็กเล็กควรปรึกษาแพทย์
4. ถ้าท้องเสีย-ถ่ายอย่างรุนแรง รีบพบแพทย์ด่วน
การป้องกัน“อหิวาตกโรค”
1. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ และ ดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำต้มสุก ภาชนะใส่อาหารควรสะอาดไม่สกปรก เลี่ยงของหมักดอง อาหารที่มีแมลงวันตอม
2. ล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดทุกครั้งก่อนกินอาหาร หรือก่อนปรุงอาหาร และหลังเข้าห้องน้ำ
3. ไม่เทอุจจาระ ปัสสาวะและสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำลำคลอง ถ่ายลงในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ และกำจัดสิ่งปฏิกูลโดยการเผาหรือฝังดิน
4. ระวังไม่ให้น้ำเข้าปาก เมื่อลงเล่นหรืออาบน้ำในลำคลอง
5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วยที่เป็นอหิวาตกโรค
ข้อมูลจาก : มิวเซียมสยาม, คณะแพทย์ศิริราชพยาบาล
ภาพจาก : AFP