TNN ทำกระทงอย่าทิ้ง! "ปลีกล้วย" เปิดสรรพคุณทางยา-เมนูอาหารเสริมสุขภาพ

TNN

Health

ทำกระทงอย่าทิ้ง! "ปลีกล้วย" เปิดสรรพคุณทางยา-เมนูอาหารเสริมสุขภาพ

ทำกระทงอย่าทิ้ง! ปลีกล้วย เปิดสรรพคุณทางยา-เมนูอาหารเสริมสุขภาพ

"ลอยกระทง 2565" หลังนำต้นกล้วยมาทำกระทงแล้ว อย่าทิ้ง "ปลีกล้วย" หรือหัวปลี พบมีสรรพคุณทางยา เช่น ช่วยบำรุงโลหิต กระตุ้นน้ำนม และนำมาทำอาหารเสริมสุขภาพให้แข็งแรงได้

"ลอยกระทง 2565" หลังนำต้นกล้วยมาทำกระทงแล้ว อย่าทิ้ง "ปลีกล้วย" หรือหัวปลี พบมีสรรพคุณทางยา เช่น ช่วยบำรุงโลหิต กระตุ้นน้ำนม และนำมาทำอาหารเสริมสุขภาพให้แข็งแรงได้


นพ.เทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า สำหรับวันลอยกระทงในปีนี้ตรงกับวันที่ 8 พฤศจิกายน การลอยกระทงเป็นประเพณีที่มีมาแต่โบราณ 

โดยส่วนใหญ่หลายพื้นที่ของประเทศไทยมักจะมีการจัดงานวันลอยกระทงเพื่อให้ประชาชนนำกระทงมาลอยเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อพระแม่คงคา โดยกระทงส่วนใหญ่มักทำมาจากต้นกล้วยและใบตองในรูปแบบที่ต่างกันไป 

นอกจากต้นกล้วยมีประโยชน์ในการทำกระทงและงานฝีมือต่างๆ แล้ว กล้วยยังมีสรรพคุณทางยา ช่วยรักษาโรค และสามารถนำมาเป็นส่วนประกอบของเมนูอาหาร เพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

นอกจากต้นกล้วยจะนำมาเป็นฐานและมีการใช้ส่วนของใบตองมาประดับในการทำกระทงแล้ว อีกส่วนหนึ่งที่สามารถนำมาทำเป็นกระทงได้คือ ปลีกล้วยดอกหรือปลีกล้วย คือส่วนช่อดอกของต้นกล้วย 

ลักษณะเป็นกาบซ้อนกันคล้ายดอกบัวตูม การประดิษฐ์กระทงจึงไม่ยุ่งยาก แค่ดึงกาบที่มีสีชมพูสวยงามนั้นออกมา แล้วนำกาบนั้นมาประดิษฐ์เข้ากับฐานกระทงที่ทำจากต้นกล้วยให้สวยงาม นำดอกไม้ธูปเทียนใส่ตรงกลางก็เสร็จสิ้น 

ส่วนที่เหลือของปลีกล้วยไม่ต้องทิ้งนำมาปรุงเป็นอาหารรับวันลอยกระทง เพื่อรับประทานร่วมกันกับครอบครัวได้อีกด้วย

ทำกระทงอย่าทิ้ง! ปลีกล้วย เปิดสรรพคุณทางยา-เมนูอาหารเสริมสุขภาพ

สำหรับ "ปลีกล้วย" มีสารอาหารที่สำคัญได้แก่ แคลเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงโลหิตในคุณแม่หลังคลอดและปลีกล้วยมีสารซาโปนิน(Saponins) และแทนนิน(Tannins) ซึ่งเพิ่มระดับฮอร์โมนโปรแลคติน 

ในทางการแพทย์แผนไทย "ปลีกล้วย" มีสรรพคุณทางยา กระตุ้นต่อมน้ำนมให้มีการสร้างน้ำนมของคุณแม่หลังคลอด ช่วยบำรุงโลหิต และ ปลีกล้วย ยังสามารถนำมาเป็นส่วนประกอบเป็นอาหารในหลายเมนูได้อีกด้วย เช่น ต้มยำหัวปลี แกงเลียงหัวปลี ยำหัวปลี หมกหัวปลี เป็นต้น

สำหรับผู้ที่ไปร่วมงานลอยกระทง ควรดูแลสุขภาพของท่านให้แข็งแรง ควรสวมเสื้อผ้าให้ความอบอุ่น เนื่องจากวันลอยกระทงปีนี้จะมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย และที่สำคัญอย่าลืมรักษาความสะอาดของแม่น้ำลำธารเพื่อสุขภาวะและสิ่งแวดล้อมที่ดี

หากมีข้อสงสัยด้านศาสตร์การแพทย์แผนไทย สามารถสอบถามข้อมูลกับแพทย์แผนไทย ในโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศได้ หรือสามารถสอบถามโดยตรงได้ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หมายเลขโทรศัพท์ 0 2149 5678 หรือช่องทางออนไลน์ที่เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/dtam.moph และไลน์แอดกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก line@DTAM


ข้อมูลจาก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

ภาพจาก TNN Online , wirestock on Freepik

ข่าวแนะนำ