เจาะที่มา 'แดงเดือด' กับ 'กิตติกร อุดมผล' ผู้บัญญัติคำนี้เป็นคนแรกของไทย
TNNSPORTS พาไปคุยกับ "กิตติกร อุดมผล" ผู้บรรยายฟุตบอลชื่อดังลายคราม ที่เป็นผู้บัญญัติคำว่า "แดงเดือด" ในการเจอกันของสองทีมนี้เป็นคนแรกของเมืองไทย ทำให้แฟนบอลและสื่อเรียกติดปากกันมานานกว่า 25 ปีแล้ว มันจะมีที่มาน่าสนใจขนาดไหน ไปติดตามพร้อมกันได้เลย
อีกเพียงไม่กี่วันในศึกพรีเมียร์ลีก แมตช์เดย์ 9 ของฤดูกาล ก็จะเป็นคิวของศึกแดงเดือด การพบกันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด รับมือ ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์ ที่ 24 ต.ค. 64 นี้ เวลา 22.30 น. แน่นอนว่าการแข่งขันระดับ 5 ดาวแบบนี้ อยู่ในความสนใจของแฟนฟุตบอลชาวไทยทุกครั้งยามที่มีการระเบิดแข้งกันแน่นอน
"แดงเดือด" คำนี้ถูกบัญญัติขึ้นยามที่ เเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงทำการแข่งขันกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งไม่ใช่ดาร์บี้แมตช์เหมือนการเจอกันของทีมอื่นๆ แต่มันเป็นแมตช์ฟุตบอลที่น่าสนใจกว่านั้น เต็มไปด้วย ความดุเดือด ตื่นเต้น และเป็นที่จับตามองของแฟนทั่วโลก ซึ่งไม่ใช่คนในพื้นเพนี้ด้วยซ้ำ
วันนี้ TNNSPORTS พาไปคุยกับ "กิตติกร อุดมผล" ผู้บรรยายฟุตบอลชื่อดังลายคราม ที่เป็นผู้บัญญัติคำว่า "แดงเดือด" ในการเจอกันของสองทีมนี้เป็นคนแรกของเมืองไทย ทำให้แฟนบอลและสื่อเรียกติดปากกันมานานกว่า 25 ปีแล้ว มันจะมีที่มาน่าสนใจขนาดไหน ไปติดตามพร้อมกันได้เลย
-กิตติกร อุดมผล หรือ "กบ" เจ้าของนามปากกา "ศิริ อัครลาภ" นับเป็นผู้บรรยายกีฬาหรือคอลัมนิสต์อาวุโสอีกคนของวงการฟุตบอลต่างประเทศในบ้านเรา เคยมีประสบการณ์ไปประจำที่ประเทศอังกฤษนานกว่า 3 ปี เมื่อสมัยยังเป็นดิวิชั่น 1 ก่อนจะผันตัวมาเป็นกูรู , คอลัมนิสต์ และนักพากย์จนถึงปัจจุบัน
"ผมเริ่มไปทำข่าวที่อังกฤษ ไปประจำที่กรุงลอนดอน ตั้งแต่ปี 1991-1993 ก็ตอนนั้นทำงานอยู่กับสยามกีฬา สตาร์ซอคเกอร์ หลังจากนั้นก็กลับมาก็มาเขียนหนังสือ เป็นคอลัมนิสต์ บรรยายฟุตบอล จนถึงตอนนี้ครับ"
-แมนฯ ยูไนเต็ด กับลิเวอร์พูล เป็นทีมที่มีความพิเศษกว่าทีมอื่นๆ เนื่องด้วยความสำเร็จในอดีตอีกทั้งยังมีแฟนบอลอยู่ทุกมุมของโลกชนิดที่เรียกว่าเป็นทีมที่ World wide สุดๆ
"ความพิเศษของสองทีมนี้คือเป็นทีมยักษ์ใหญ่ที่ประวัติศาสตร์ความสำเร็จยาวนานมาก เป็นทีมที่แฟนบอลนอกเหนือจากในท้องถื่นเยอะมาก คือต้องทำความเข้าใจก่อนว่าที่อังกฤษ มันจะเป็นลักษณะท้องถิ่นนิยม ใครเกิดที่ไหน ทำงานที่ไหน หรือเติบโตกับที่ไหน เค้าก็จะเชียร์ทีมนั้น เช่น ลอนดอน ก็จะเชียร์ในกลุ่มลอนดอน , มิดแลนด์ ก็จะเชียร์ในกลุ่มนั้น หรือ ไทน์ไซด์ ก็จะมีทีมที่เชียร์ แต่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ ลิเวอร์พูล มันยิ่งใหญ่ขนาดที่ว่า แฟนบอลนอกพื้นที่เยอะมากๆ นี่แหละคือความพิเศษ"
-ยามเล่นทีมเยือนของสองทีมนี้ในอดีต แฟนบอลจะเยอะกว่าใครๆชนิดที่เรียกว่าเกิดปรากฏการณ์แฟนทีมเยือนเยอะกว่าเจ้าบ้านบ่อยมาก นอกจากนี้รถไฟหรือเครื่องบินจะเต็มไปด้วยกลุ่มคนเสื้อแดง
"ยามที่สองทีมนี้ลงทำการแข่งขันในเกมเยือน สมัยก่อนอะนะ เชื่อมั้ยว่า การเดินทางโดยรถไฟหรือรถบัสในช่วงสุดสัปดาห์ จะเต็มไปด้วยกองทัพเสื้อแดงเวลาออกไปเล่นเป็นทีมเยือน แฟนบอลเยอะสุดๆ และบ่อยครั้งมากที่แฟนบอลทีมเยือนจะเยอะกว่าเจ้าบ้าน แม้จะได้ตั๋วมาเพียง 10-15 % แต่เจ้าบ้านก็ต้องยอมเปิดขายเพิ่ม ให้กับทีมเยือน เพราะว่าบัตรฝั่งเจ้าบ้านมันขายไม่หมด จนบางครั้งไม่รู้เลยว่าใครเป็นเจ้าบ้านหรือทีมเยือนกันแน่"
-คำว่า "แดงเดือด" มันเหมาะสมที่สุดกับฟุตบอลคู่นี้ มันเดือดทุกครั้งที่เจอกัน เดือดทั้งในสนามและมวลหมู่ของแฟนบอล ไม่มีคำใดที่เหมาะสมเท่าอีกแล้ว
"ตอนนั้นผมทำงานกับบริษัท พี่ ย.โย่ง มีโปรเจ็กต์จะสร้างกิจกรรมเชียร์ฟุตบอลหมู่กับแฟนๆ ในการรวมคนที่รักสองทีมนี้มาดูฟุตบอลกัน จำไม่ได้ว่าปีอะไร แต่คิดว่าน่าจะประมาณ 1996 พี่โย่งก็ให้ผมไปคิดว่าเราจะตั้งชื่องานกันว่าอะไรดี ชื่อแรกที่เสนอไป "รวมพลคนรักฟุตบอล" เพราะในความตั้งใจคือมันสามารถใช้กับทุกทีมได้ แต่พี่โย่งบอกมันยังไม่เดือดไม่แรงพอ นั่งคิดไปคิดมา หมดกาแฟไปหลายแก้ว อยู่ดีๆ ก็ปิ้งค์ขึ้นมาว่า "แดงเดือด" เพราะสองทีมนี้ใส่เสื้อสีแดงเหมือนกัน แข่งขันแต่ละครั้งก็ดุเดือดเหมือนสงคราม เล่นกันถึงพริกถึงขิง ใส่กันเต็มเหนี่ยวไม่มีใครยอมใคร จึงได้แคมเปญแเดงเดือดขึ้นมา จัดงานครั้งแรกที่ MCC Hall The Mall บางกะปิ โอ้โห จำได้เลยว่าคนทะลักมากๆ เป็นพันที่มาออกันหน้าโรงหนังจนพี่โย่งบอกว่ามันเยอะเกินไป ไม่คาดฝันว่าคนจะมาเยอะขนาดนี้ เชียร์กันสนุกมาก ดุเดือดจริงๆ จนเป็นอะไรที่เหมาะกับแดงเดือดสุดๆ กระทั่งกลายเป็นคำที่ติดปากแฟนบอลและสื่อทุกสื่อจะใช้พาดหัวข่าวเวลาสองทีมนี้เจอกันนั่นแหละครับ"
-การเจอกันของแมนฯยูไนเต็ดกับลิเวอร์พูล มันมีความพิเศษชนิดที่ว่าหาแมตช์อื่นๆที่จะมาเทียบเคียงได้ยากมาก
"มันตอบยากนะ อันนี้มันเป็นการเจอกันของทีมที่ไม่ใช่ทีมในเมืองเดียวกันเจอกัน ไม่ใช่ ดาร์บี้ แมตช์ อย่างสมมุติ สเปน ก็จะเป็น บาร์เซโลนา พบ เรอัล มาดริด ในเอลกลาซิโก , ในอิตาลี ก็จะเป็น ยูเวนตุส พบ สองทีมมิลาน หรือในเยอรมัน ยุคนี้ก็คงเป็น บาเยิร์น มิวนิค พบ ดอร์ทมุนด์ อารมณ์แนวๆนี้ คือสองทีมยิ่งใหญ่มาพบกัน มันยอมกันไม่ได้ แต่ถ้าสำหรับผม ที่สุดของฟุตบอลระดับสโมสรยังไงก็ต้องเป็นแดงเดือด"
-ความดุเดือด การบลัฟกันของแฟนบอลที่อังกฤษและเมืองไทย มีความดุเดือดที่แตกต่างกันมากขนาดไหน
"เอาจริงๆ พอๆกันแหละ ไม่ต่างกันหรอก สมัยก่อนเค้าบลัฟกันในหมู่แฟนบอลหรือในกลุ่มที่รู้จัก กลุ่มเรียนด้วยกันหรือกลุ่มที่ทำงาน เพราะโทรศัพท์ก็ยังไม่เสถียร โซเชียลก็ยังไม่มี แต่พอสมัยนี้ทุกอย่างมันถึงกันหมด มีแพลตฟอร์มออนไลน์ขึ้นมา มันทำให้การทับถมกันเป็นเรื่องง่าย ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย ทุกอย่างมันก็อยู่ที่ผลการแข่งขันที่พบกัน หลักๆแล้วอันดับในตาราง ใครจะจบสูงกว่าใคร ใครจะแชมป์ มันไม่เกี่ยวเท่าไหร่ มันอยู่ที่ผลการพบกันในวันนี้ มากกว่าครับ"
-แดงเดือดยกแรกประจำฤดูกาล 2021-22 เชื่อว่าน่าจะมีผู้ชนะ
"เจอกันครั้งนี้ คาดเดายากนะ เพราะทั้งสองทีมมีจุดอ่อนจุดแข็งทั้งคู่ ไม่มีใครที่เหนือกว่ากันแบบขนาดนั้น ลิเวอร์พูล ก็มีสามประสาน ซาลาห์ , มาเน่ และ ฟีร์มิโน่ หรือจะเป็นซูเปอร์ซับอย่าง โชต้า ส่วน แมนฯยู การได้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับมา ช่วยเติมมิติเกมรุกยกระดับทีมได้เยอะ เอาเป็นว่าคาดเดาผู้ชนะไม่ถูกจริงๆครับ แต่ผมเชื่อว่านัดนี้ไม่น่าจบเสมอครับ"
-การเชียร์ฟุตบอลอย่างมีมารยาทของแฟนบอลทั้งสองทีม
"ก็อยากให้แฟนบอลเชียร์ฟุตบอลกันอย่างมีสติ มีมารยาท ไม่รู้จะห้ามอะไร เพราะห้ามไปก็เท่านั้น อย่าไปเรียกกันว่า เป็ดแดง หรือ หมาแดงถือส้อม ถ้าที่อังกฤษนี่เค้าถือว่าหยาบคาย ไม่ให้เกียรติกันนะ ใจเย็นๆกันครับ แพ้ชนะก็แซวกันเล็กๆน้อยๆ พอเป็นสีสัน มันไม่มีทีมใดที่ชนะตลอดหรือแพ้ตลอดหรอกครับ ขอให้ทุกท่าน Enjoy the match ครับผม ดูน้อยลง"
เรียบเรียงโดย : NickyMAN (นิก ธีร์ธวัช)