ผลบอล พรีเมียร์ลีก 2024/25 : ลิเวอร์พูล เฉือน วูล์ฟส์ 2-1 รั้งจ่าฝูง (คลิปไฮไลท์)

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ที่ 6 เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา วูล์ฟแฮมป์ตัน ก่อนแข่งนัดที่ 6 รั้งอยู่บ๊วยของตารางยังไม่ชนะทีมใด เกมนี้เปิด โมลินิวซ์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ที่ก่อนแข่งรั้งอันดับ 4 ซึ่งเกมนี้หากคว้าชัยได้จะแซงขึ้นนำจ่าฝูงทันที

เริ่มเกมมา 5 นาที วูล์ฟส์ ได้ทักทายก่อน รายาน เอต-นูรี่ ไหลบอลให้ ฌอง-ริซแนร์ แบลล์การ์ด พลิกยิงในเขตโทษฝั่งซ้าย ทว่าเบาและตรงตัว อลิสซอน

ลิเวอร์พูล มีโอกาสลุ้นจะแจ้งครั้งแรกในนาที 32 จากฟรีคิกหน้าเขตโทษ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เขี่ยย้อนหลังให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ วิ่งมายิงเต็มแรง แต่ แซม จอห์นสตัน ยังเซฟเอาไว้ได้

ต่อมาลูกทีมของอาร์เน่ มาได้ประตูขึ้นนำในช่วงทดเจ็บ นาที 45+2 จากจังหวะที่ ดีโอโก้ โชต้า เปิดจากด้านซ้ายเข้ามาให้ อิบราฮิมา โกนาเต้ เทกตัวขึ้นสูงโขกบอลเข้าไปจมตาข่าย ส่งให้ ลิเวอร์พูล บุกมานำ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง นาที 56 เป็นเจ้าถิ่นที่ตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่เกมรับทีมเยือนไม่เข้าใจกัน โกนาเต้ บังบอลไม่ดีโดน ยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซ่น แย่งได้ก่อนจ่ายให้ คาร์ลอส ฟอร์บส์ ยิงโดนไม่ดี แต่บอลเข้าทาง รายาน เอต-นูรี่ วิ่งมายิงจ่อๆ เข้าไป

แต่เจ้าถิ่นก็ดีใจไม่นานเพราะมาเสียจุดโทษในนาที 60 จากการฟาวล์ของ เนลซอน เซเมโด้ ที่ทำฟาวล์ โชต้า ก่อนเป็น ซาลาห์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปเป็น 2-1 

ช่วงเวลาที่เหลือไม่สามารถพังประตูเพิ่มเติมกันได้ จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-1 คว้าสามแต้มพร้อมแซงขึ้นนำจ่าฝูงมี 15 คะแนน ทิ้งแชมป์เก่า แมนซิตี้ และอาร์เซน่อล หนึ่งคะแนน ส่วน วูล์ฟส์ 6 เกมยังไม่ชนะทีมใด มีหนึ่งคะแนนรั้งบ๊วยของตาราง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

วูล์ฟแฮมป์ตัน (4-3-2-1) : แซม จอห์นสโตน - เนลสัน เซเมโด้, ซานติอาโก้ บวยโน่ (โธมัส ดอยล์ น.78), โตติ, รายาน เอต์-นูรี - มาริโอ เลอมิน่า, อันเดร, ชูเอา โกเมส - ฌอง-ริกแนร์ เบลก๊าร์กด์ (คาร์ลอส ฟอร์บส์ น.53), มาเตอุส คุนญ่า - เยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซ่น (ฮวาง ฮี-ชาน น.68)

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (โจ โกเมซ น.89)  - อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ค - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิค โซโบซไล (เคอร์ติส โจนส์ น.73), ลุยส์ ดีอาซ (โกดี้ กัคโป น.73) - ดีโอโก้ โชต้า