ถึงเวลา 'คาเซมิโร่' แล้วหรือยัง? กับการลงตัวจริงให้ 'แมนยู'

มันอาจถึงเวลาแล้วที่ คาเซมิโร่ จะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเพื่อพิสูจน์ตัวเองแบบเต็มตัวเสียที หลังไว้เนื้อเชื่อใจ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ในช่วงฟอร์มพีคมาในระยะหลัง

คาเซมิโร เพิ่งย้ายมาจาก เรอัล มาดริด ภายใต้มูลค่า 70 ล้านปอนด์มีชื่อเป็นเพียงตัวสำรองในเกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม และเพิ่งจะได้ลงสนามในสีเสื้อ ปีศาจแดง ไปเพียง 216 นาทีรวมทุกรายการ

ถึงตอนนี้น่าจะถึงเวลาแล้วที่ คาเซมิโร่ จะได้สัมผัสเกมอย่างต่อเนื่องในฐานะตัวจริงของทีม ไม่ว่าเขาจะปรับตัวได้ดีแค่ไหน ก็ต้องปล่อยมาลองของตั้งแต่ต้นเกมกันบ้าง โดยเกมล่าสุดที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เทน ฮาก ส่ง คาเซมิโร ลงสนามในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายเมื่อสกอร์ขาดไปแล้ว

โดยเกมแรกและเกมเดียว ในเวลานี้ที่ คาเซมิโร่ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้ แมนฯยู ก็คือเกม ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ที่ แมนฯยู พ่ายแพ้คาบ้านต่อ เรอัล โซเซียดาด สโมสรจากสเปน 0-1 โดยหลังจากที่นั้น คาเซมิโร่ ก็ไม่เคยได้รับโอกาสลงสนามเป็น 11 ตัวจริงอีกเลย

ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท ตำนานแข้งชาว เนเธอร์แลนด์ สับเละถึงความผิดพลาดในการตัดสินใจของ เอริค เทน ฮาก ในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปปราชัยต่อ แมนฯ ซิตี้ ขาดลอย 6-3  

โดย ฟาน เดอ ฟาร์ท ชี้ว่าเขาไม่เข้าใจถึงเหตุผลในการตัดสินใจของ เทน ฮาก ที่ดร็อปมิดฟิลด์ บราซิเลียน นั่งอยู่บนม้านั่งสำรองในเกมดังกล่าว 

"เทน ฮาก ควรจะให้ คาเซมิโร ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง แม็คโทมิเนย์ เริ่มที่จะทำผลงานกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ดีเมื่อทีมกลับมาเก็บชัยชนะได้ต่อเนื่องอีกครั้ง แน่นอนว่าเขาไม่สามารถตัดชื่อกองกลางรายนี้ออกจากทีมได้ แต่ผมคิดว่ามันเรื่องที่โง่เขลาเป็นอย่างมากเพราะท้ายที่สุด มันเป็นการสร้างปัญหาใส่ตัว"

ในขณะที่  ริโอ เฟอร์ดินานด์ ตำนานกองหลังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็กล่าวถึง คาเซมิโร่ ด้วยว่า 

 

"คาเซมิโร่ เป็นอีกคน เขานั่งอยู่ข้างสนามแล้วก็คิดว่า ฉันเป็นแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก มา 5 สมัยนะ เขาเป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่น่าทึ่ง เป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในโลกก่อนที่จะย้ายมายัง แมนฯ ยูไนเต็ด”

“แต่เขายังไม่ได้รับโอกาส เขายังไม่มีโอกาสลงเล่นเหมือนคนอื่นๆ เขาย้ายเข้ามาและได้เป็นตัวจริงแค่เกมยูโรปา ลีก ในการเจอกับทีมอะไรก็ไม่รู้เขายังไม่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเลย ทั้งๆที่ฟิตและพร้อม ผมสงสัยว่ามันอาจจะมีผลกระทบต่อคนอย่างเขาก็ได้”

บางทีในอนาคตอันใกล้ บางทีเราอาจได้เห็น กาเซมีโร่ ถูกส่งลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างจริงๆจังๆสักที ซึ่งไม่แน่ว่าเขาอาจเปลี่ยนใจส่ง คาเซมิโร่ จับคู่กับ เฟร็ด เพื่อนร่วมชาติดูสักเกม เนื่องจากคู่นี้คือคู่มิดฟิลด์ในโผ 11 คนแรกของทีมชาติ บราซิล ซึ่งได้ลงเล่นด้วยกันบ่อยครั้งในหลายเกมหลัง และช่วยให้ทีมชาติบราซิลเก็บชัยชนะ 7 นัดติดต่อกันแล้ว

คาเซมิโร่ น่าจะมีสิทธิ์ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ในเกมพรีเมียร์ลีกกับ เอฟเวอร์ตัน คืนวันอาทิตย์นี้ ซึ่งจะเป็นการลงสนามตัวจริงนักแรกของเจ้าตัวให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก อีกด้วย

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของ ยูไนเต็ด จะลงสนามในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 ด้วยการบุกไปเยือน โอโมเนีย ที่ประเทศไซปรัส ในวันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคมนี้ เวลา 23.45 น. ก่อนจะกลับมาลงสนามในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษด้วยการบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ในวันที่ 9 ตุลาคมเวลา 01.00 น.

ที่มาภาพ : AFP