TNN 'แรชฟอร์ด' กับอนาคตที่ยังไม่แน่นอน จะอยู่หรือจะย้ายทีม ?

TNN

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

'แรชฟอร์ด' กับอนาคตที่ยังไม่แน่นอน จะอยู่หรือจะย้ายทีม ?

'แรชฟอร์ด' กับอนาคตที่ยังไม่แน่นอน จะอยู่หรือจะย้ายทีม ?

มาร์คัส แรชฟอร์ด ศูนย์หน้าลูกหม้อของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มลังเลในอนาคตของตัวเองกับสโมสร เนื่องจากไม่ระดับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง

หลังจากที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด แนวรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลุดเป็นตัวสำรองแทบจะถาวรในยุคของ ราล์ฟ รังนิก โดยเฉพาะในเกมล่าสุดในศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ที่ ปีศาจแดง ไม่มีทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้  และเอดินสัน คาวานี่ แต่กุนซือชาวเยอรมันก็เลือกที่จะดร็อป แรชฟอร์ด ไว้ที่ม้านั่งสำรอง และเลือก บรูโน่ แฟร์นันด์ส ขึ้นมายืนสูงในรูปแบบฟอลส์ไนน์ สร้างความผิดหวังให้กับ แรชฟอร์ด ที่ได้ลงครึ่งหลังในเกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ไปเพียง 26 นาทีเป็นอย่างมาก

 

ซึ่งว่ากันว่านี่คือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ แรชฟอร์ด ต้องตัดสินใจพิจารณาอนาคตของตัวเองภายในเดือนมีนาคมนี้ จากการรายงานข่าวของ ฟาบิโอ โรมาโน่ สายข่าวคนดังจาก Sky Sports และ แม้ว่าหลังจบเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ราล์ฟ รังนิก จะยืนยันว่าพร้อมจะช่วยเหลือสนับสนุน มาร์คัส แรชฟอร์ด อย่างเต็มที่แม้ผลงานช่วงหลังของ เจ้าแรช จะดูไม่ค่อยดีนัก

 

"มาร์คัส มีพรสวรรค์เต็มเปี่ยม มีความเร็ว ร่างกายที่แข็งแกร่ง มีทุกอย่างที่คุณต้องการ สำหรับกองหน้าสมัยใหม่ ไม่ใช่แค่เฉพาะการเล่นจากปีกหรืออยู่ตรงกลาง ผมจะทุ่มเทพลังงานทั้งหมดเพื่อช่วยเขาให้อยู่ในเส้นทางเดียวกันกับที่ผู้เล่นคนอื่น"

 

"เราไม่ได้มีกองหน้าพร้อมลงเล่นมากนัก สำหรับเรา คำถามคือเราจะใช้ มาร์คัส ลงตัวจริง หรือเล่นฟอลส์ไนน์ โดยใช้ บรูโน่ ขึ้นสูง แล้วเพิ่มกองกลางเติมเข้ามาอีกคน เพื่อทำให้แน่ใจว่าเราจะเอาชนะในจังหวะแย่งบอล นั่นคือเหตุผลที่ผมตัดสินใจใช้ บรูโน่ เป็นฟอลส์ไนน์"


'แรชฟอร์ด' กับอนาคตที่ยังไม่แน่นอน จะอยู่หรือจะย้ายทีม ?

ที่มาภาพ : AFP

 

สำหรับ แรชฟอร์ด นับเป็นสมบัติล้ำค่าเพียงชิ้นเดียวที่ หลุยส์ ฟาน กัล เทรนเนอร์ชาวฮอลแลนด์ ทิ้งไว้ให้กับ ยูไนเต็ด ซึ่งอันที่จริงแล้วเจ้าตัวอยู่กับทีมตั้งแต่อายุเพียง 8 ขวบ จนได้สัญญาฉบับอาชีพฉบับแรกเมื่ออายุ 18 ปี

 

แรชฟอร์ด เริ่มแนะนำตัวเองกับแฟนๆ ปีศาจแดง ในฤดูกาล 2015-2016 ในยุคที่ หลุยส์ ฟาน กัล คุมทีม ก่อนที่เจ้าตัวจะกลายเป็นขวัญใจแฟนๆในชั่วพริบตาจากลีลาการเล่นที่เฉิดฉาย ไปกับบอลได้ดี ยิงประตูเฉียบขาด โดยทันทีที่ขึ้นมาปีแรก เจ้าตัวยิงไป 8 ประตู จาก 18 นัดรวมทุกรายการในฤดูกาลนั้น และคว้าแชทมป์แรกในชีวิตนักเตะกับโทรฟี่ เอฟเอ คัพ

 

ปี 2016-2017 แมนฯยู เปลี่ยนกุนซือมาเป็น โชเซ่ มูรินโญ่ แต่ แรชฟอร์ด ก็ยังลงสนามให้กับทีมอย่างต่อเนื่อง ลงเล่นทั้งหมด 53 นัด ยิงถึง 11 ประตู พร้อมพาทีมคว้าแชมป์ ลีกคัพ ไปครอง นับเป็นโทรฟรี่ที่ 2 ในอาชีพของเจ้าตัวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด

 

หลังจากนั้น แรชฟอร์ด กลายเป็นตัวหลักของ แมนฯ ยูไนเต็ด เรื่อยมา แม้ทีมจะมีการเปลี่ยนกุนซือจาก มูรินโญ่ มาเป็น โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ช่วงปลายปี 2019 แต่ แรชฟอร์ด ยังคงยิงประตูอย่างต่อเนื่อง และเสริมมิติเกมรุกให้ทีม ด้วยการออกไปเล่นริมเส้น 

 

ผลงานอีกชิ้นของ เเรชฟอร์ด คือการคว้าแชมป์ ยูโรปาลีก กับ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2016-2017 และรองแชมป์ยูโรปา 2020-21

 

กาลเวลาผ่านไป กุนซือของ ยูไนเต็ด ผลัดใบมาเป็นการทำทีมของ ราล์ฟ รังนิก เจ้าตัวก็ยังได้รับโอกาสอยู่พอสมควร แต่น่าเสียดายที่ซีซั่นนี้ แรชฟอร์ด โดนอาการบาดเจ็บรบกวน ก่อนกลับมาลงลงสนามอีกครั้ง และยังยิงประตูใน นาทีบาป ที่ ปีศาจแดง เชือด เวสต์แฮม ได้สำเร็จในยุคของ โซลชา ด้วย

 

ภาพรวมของ แรชฟอร์ด ในซีซั่นนี้ เพิ่งยิงไปเพียง 5 ประตูจาก 24 เกมรวมทุกรายการเท่านั้น นั่นจึงไม่แปลกว่าทำไมเสียงวิพากษ์วิจารย์จึงถาโถมามายังแข้งทีมชาติอังกฤษรายนี้ 

 

แอนโธนี่ อีแลงก้า แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวแล้ว จึงไม่แน่ว่า แรชฟอร์ด อาจต้องกินน้ำใต้ศอกกองหน้ารุ่นน้องต่อไปในยุคของผู้จัดการทีมคนใหม่ก็เป็นได้ และอย่าลืมว่าศูนย์หน้าวัย 24 ปีมี เจดอน ซานโช่ เป็นก้างขวางคอต่อการแย่งชิงตำแหน่งโผ 11 คนแรกในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เช่นกัน


'แรชฟอร์ด' กับอนาคตที่ยังไม่แน่นอน จะอยู่หรือจะย้ายทีม ?

ที่มาภาพ : AFP

 

ซึ่งจากกระแสข่าวการย้ายออกของ แรชฟอร์ด ทำเอาอดีตปราการหลังระดับตำนานของ ยูไนเต็ด อย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์ ถึงกับช็อคตาตั้ง โดยเปิดเผยถึงข่าวดังกล่าวว่า 

 

"พูดตามตรง ข่าวนี้ทำผมอึ้งไปเลยถ้ามันเป็นเรื่องจริง ผมไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริง คุณสามารถพูดแบบนั้นได้ ถ้าคุณโชว์ฟอร์มได้ดี คุณจะพูดแบบนั้นได้ถ้าคุณยิงประตูได้มากมายและมีฟอร์มที่สม่ำเสมอ แต่ มาร์คัส ไม่ใช่แบบนั้น เขาเล่นไม่ดีเลยตอนนี้"

 

"ผมพูดตรง ๆ ว่าเขาดูไม่ค่อยมีความสุขที่ ยูไนเต็ด ผมดู มาร์คัส เล่นและรู้สึกว่าเหมือนเขากำลังแบกโลกเอาไว้บนบ่า เขาไม่มีความสุข และผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ตอนที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก้าวขึ้นมาอยู่ในทีม คุณจะคิดว่า โอ้ พระเจ้า นี่คืออีกหนึ่งผลิตผลของทีมเยาวชนที่ก้าวขึ้นมาด้วยพลังงาน การจุดประกาย คุณภาพ คลาสบอล ความก้าวร้าว และจรรยาบรรณในการทำงาน "

 

ซึ่งหลังจากข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดออกไปก็มีรายงานตามมาติดๆว่า มีหลายทีมสนใจดึงตัว แรชฟอร์ด ไปร่วมทัพทั้ง อาร์เซน่อล ,สเปอร์ส เวสต์แฮม และ นิวคาสเซิ่ล รวมไปถึงทีมต่างแดนอย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และ เรอัล มาดริด 

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุที่ แรชฟอร์ด มีสัญญากับ ผีแดง จนถึงปี 2023 ทำให้คาดกันว่าทีมดังของ พรีเมียร์ลีก ตั้งค่าตัวของเขาเอาไว้ที่หลัก 100-120 ล้านยูโร (ราว 3,632-4,358 ล้านบาท) 

 

แต่สำหรับ เรอัล มาดริด มีการระบุเพิ่มเติมว่าพวกเขาพร้อมดึงตัวดาวยิง ผีแดง มาเสริมทัพแน่หาก แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมรับข้อเสนอไม่มากไปกว่า 60 ล้านยูโร (ราว 2,179 ล้านบาท)

 

ถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่า แรชฟอร์ด จะไม่มีความสุขกับการค้าแข้งใน โรงละครแห่งความฝัน ไปแล้ว ดังนั้น แรชฟอร์ด จึงอาจเลือกเส้นทางเดินใหม่ให้กับตัวเองในฤดูกาลหน้าก็เป็นได้ 

 

แต่ไม่ว่า แรชฟอร์ด จะย้ายไปไหนหรือว่าจะอยู่กับ ปีศาจแดง ต่อไป แฟนๆก็หวังว่าเขาเองจะปรับทัศนคติในการเล่น พร้อมกับเรียกความมั่นใจของตัวเองกลับมาอีกครั้ง เพราะช่วงหลังดูเหมือนว่าแข้งรายนี้ทำอะไรก็ดูจะผิดพลาดไปหมด


'แรชฟอร์ด' กับอนาคตที่ยังไม่แน่นอน จะอยู่หรือจะย้ายทีม ?

ที่มาภาพ : AFP

 

หนึ่งในปัญหาที่ทำให้ แรชฟอร์ด มีฟอร์มการเล่นตกไปเยอะตั้งแต่หายเจ็บไหล่กลับมาคือ เรื่องการตัดสินใจในสนามที่ดูผิดพลาดไปหมด หลายจังหวะที่ แรชฟอร์ด ได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายแล้วตัดสินใจไม่แน่นอนว่าจะเลี้ยงต่อหรือเปิดบอลให้เพื่อนดี ส่งผลให้จังหวะการเล่นของทีมผิดพลาด รวมไปถึงจังหวะจบสกอร์ด้วย 

 

นอกจากนี้อีกหนึ่งเรื่องที่ แรชฟอร์ด โดนด่าบ่อยในระยะหลังก็คือ เรื่องความขยัน เพราะดูเหมือนว่า ราล์ฟ รังนิก จะชื่นชอบความทุ่มเทและความขยันของเจ้าหนู แอนโธนี่ อีแลงก้า มากกว่า ยาม แรชฟอร์ด อยู่ในสนามนั้น ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความขยันในการวิ่งไล่บอลและลงมาช่วยเกมรับมากเท่าที่ควร ดังนั้นถ้าอยากอยู่กับทีมต่อก็ควรต้องเปลี่ยนทัศนคติกับการเล่นในจุดนี้ด้วย

 

ไม่ดีนี่อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แบบยกแผงแนวรุกของปีศาจแดงเพราะอย่าลืมไปว่าก่อนหน้านี้ อ็องโตนี่ย์ มาร์กซิยาล และ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ที่ดูเหมือนว่าจะไร้ใจ ก็ถูกปล่อยออกไป  แถม เมสัน กรีนวู้ด ชื่อนี้แฟนผี ก็ค่อยลืมไปแล้ว 

 

สุดท้ายก็เหลือ แรชฟอร์ด ที่อนาคตยังเป็นเครื่องหมายคำถามต่อไป และถึงแม้ว่าแข้งรายนี้จะย้ายออกจากถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จริง แต่อย่างน้อยก็ขอให้ทิ้งฟอร์มเทพ เหมือนตอนแจ้งเกิดขึ้นมาใหม่ ก่อนจากแบบเหลือเยื่อใยดีดี ไว้กับแฟนๆ ปีศาจแดง

ข่าวแนะนำ