จับคู่กรณี "สมรักษ์ คำสิงห์" หลังโกงเงินค่าลอตเตอรี่

ก่อนหน้านี้ สมรักษ์ คำสิงห์ พร้อมทนายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังถูกนางปารมี อ้างตัวเป็นยี่ปั๊วหลอกขายสลากกินแบ่งรัฐบาล จนสูญเงินไปกว่า 11.75 ล้านบาท   เนื่องจากคนสนิทแนะนำว่า หากอยากลงทุนลอตเตอรี่ให้ติดต่อกับนางปารมี เนื่องจากเป็นยี่ปั๊วมีโควต้าลอตเตอรี่จำนวนมาก และนางปารมี สามารถซื้อลอตเตอรี่ได้ราคาต่ำกว่ายี่ปั๊วหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวเองจึงชวนกลุ่มเพื่อนคนสนิท รวมทั้งคนในวงการกีฬา มาร่วมลงทุน

โดยได้สั่งซื้อลอตเตอรี่งวดประจำวันที่ 1 ก.พ.2564 มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งนางปารมี ส่งลอตเตอรี่ให้ครบตามจำนวน ทำให้กลุ่มที่ร่วมลงทุนมั่นใจว่ามีการซื้อขายกันจริง ไม่มีการโกง หลังจากนั้นจึงชักชวนผู้ที่สนใจมาร่วมลงทุนมากขึ้น และผู้ร่วมลงทุนส่วนใหญ่ก็เชื่อว่าตัวเองเป็นคนกลางสั่งซื้อ คงไม่มีใครกล้าโกง

ต่อมาสมรักษ์ สั่งซื้อลอตเตอรี่มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท กับนางปารมี กลับไม่ได้รับล็อตเตอรี่ เมื่อติดต่อขอเงินคืนก็ถูกบ่ายเบี่ยง อ้างว่านายของนางปารมี กำลังประสานการคืนเงินให้ หลังจากนั้นนางปารมี ก็ทยอยชดใช้เงินให้กับตนจนเหลือยอดค้างอีก 11.75 ล้านบาท แต่ผ่านมา 3 เดือน นางปารมี ก็ไม่ได้คืนเงินที่เหลืออยู่ จึงปรึกษาทนายความก่อนแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด

จากนั้นชุดสืบสวนกองปราบปรามได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเนื่องจากคาดว่าเป็นเครือข่ายเดียวกันที่โกงลอตเตอรี่ ใน จ.ตราด แต่เบื้องต้นยังไม่พบความเกี่ยวข้องกัน กระทั่งตามจับกุมคนร้ายได้ที่สุด สอบสวนนางปารมี ให้การภาคเสธ อ้างว่าไม่ได้มีเจตนาโกงเงิน แต่ที่ผ่านมาติดปัญหาบางอย่างไม่สามารถจัดหาโควต้าลอตเตอรี่มาให้ได้ตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งก็พยายามหาเงินมาคืนให้กับผู้เสียหายอยู่

และจากการตรวจสอบเพิ่มเติมยังพบว่านางปารมี เคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายครั้งในหลายท้องที่จนมีหมายจับติดตัว 9 หมายจับ ขาดอายุความแล้ว 5 หมายจับ คงเหลือหมายจับที่ยังต้องการตัวอีก 4  หมายจับ ซึ่งคดีส่วนใหญ่เป็นคดีเช็ค ล่าสุดจึงแจ้งข้อหา ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ในขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้และธนาคารปฏิเสธไม่ใช้เงินตามเช็คนั้น ก่อนส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ดำเนินคดี

ขอบคุณภาพ IG: kamsing_family