เปิดใจ เขื่อน ภัทรดนัย เผยเรื่องที่เจ็บปวดที่สุด ต่อจากนี้ขอใช้ชีวิตแบบใหม่
อดีตบอยแบนด์ดัง เขื่อน K-OTIC เปิดใจเรื่องมุมมองการใช้ชีวิต เผยเรื่องที่เจ็บปวดที่สุด นับจากนี้จะใช้ชีวิตแบบไม่เกลียดใคร ส่งต่อพลังใจให้คนรุ่นใหม่
อดีตนักน้องชื่อดัง เขื่อน ภัทรดนัย เสตสุวรรณ หรือ เขื่อน K-OTIC ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนในกลุ่ม LGBTQ+ ที่ออกมาแสดงจุดยืน และออกมาใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองเป็น
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ เขื่อน ต้องเจออะไรมาบ้าง มีมุมมองในเรื่องการใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง ล่าสุดพิธีกรดังอย่าง วู้ดดี้ วุฒิธร ได้ชวนเจ้าตัวมาพูดคุยและเปิดใจกันในเรื่องที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน
ภาพจาก : koendanai
คุณผ่านอะไรมาเยอะมาก การที่จะก้าวข้ามความลำบากทางใจ เราจะต้องเรียนรู้เรื่องอะไรบ้าง ?
"มันมีวันหนึ่งที่แบบเขื่อนฟังเสียงคนรอบนอกเยอะมากๆ อย่างสมมติคนไม่ชอบเขื่อนเราก็เปลี่ยนใช่ไหม คนไม่ชอบอะไรก็เปลี่ยนๆ จนวันหนึ่งตื่นขึ้นมาแล้วกลายเป็นว่าไม่ชอบตัวเอง ซึ่งตอนแรกเราไม่ได้ยินบริบทนี้หรือเล่าเรื่องนี้เลย ก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ แล้วก็เริ่มรู้สึกว่าทำไมเราเติมเต็มตัวเองไม่ได้สักที ต้องคอยให้ใครมาบอกว่าเราดีหรือเราไม่ดี
ก็เลยมานั่งคิดแบบลองเขียนบันทึกเปลี่ยนแปลงตัวเอง มารู้ตัวอีกทีก็คือเราไม่ชอบตัวเองแล้ว โอเคไม่ชอบตัวเองไม่ใช่เรื่องผิด เพราะไม่ใช่ทุกคนอยู่ดีๆ จะรักตัวเอง ก็มาถามก่อนว่าไม่ชอบอะไร ไม่ชอบตรงไหน มันเกิดอะไรขึ้น เราแก้ไขปรับเปลี่ยนได้ไหม ก็ค่อยๆ ทำความรู้จักกับตัวเองให้มากขึ้น ทุกวันนี้ก็ค่อนข้างมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองทำ"
ภาพจาก : koendanai
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคืออะไร ?
"รู้สึกว่าเป็นเรื่องเวลาครับ เขื่อนโฟกัสงานกับคนอื่นเยอะครับ หลายๆ ครั้งเราเอ็นจอยนะมันเติมเต็ม แต่พอเรากลับมาโฟกัสตัวเอง ลืมไปว่าเวลาส่วนตัวเราอาจจะเหลือน้อย เป็นเรื่องนี้มากกว่า ถ้าเรื่องอื่นก็จะทำใจได้ แต่ที่น่าสนใจคือความสัมพันธ์คนกับมนุษย์ มนุษย์กับเวลามันไปด้วยกันอยู่แล้วครับ เพราะทุกคนมีเวลาจำกัด จะทำอย่างไรให้มันเวิร์คกับทุกคนให้มากที่สุด"
ด้วยความที่เราอยู่ในวงการบันเทิงก็ต้องพบกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ สังคมในวงการหลังๆ เป็นยังไงบ้างสำหรับคุณ ?
เขื่อนเลือกที่จะไม่เกลียดคนนะพี่วู้ดดี้ เพราะรู้สึกว่าไม่ใช่ไม่เกลียด เพราะว่าแบบฉันเป็นคนดีอะไรอย่างนี้ไม่ใช่นะ ไม่เกลียดคนเพราะว่าวันหนึ่งเราก็เรียนรู้จากการเกลียด โดยการโดนเกลียด รู้ตัวอีกทีก็คือเกลียดคนอื่นกลับ แบบเหมือน Autopilot เธอไม่ชอบฉัน ฉันก็ไม่ชอบเธอ ก็เป็นเหมือนกลไกป้องกันตัวครับ
ภาพจาก : koendanai
พอมารู้ก็คือรู้สึกว่าการเกลียดคนมันเหนื่อย พอเราเกลียดคนใช่ไหม คนที่เราไม่ชอบเดินมา เราก็ใจเต้นไม่ดีแล้ว พอคนที่เราไม่ชอบ ไม่ถูกชะตาขึ้นมาในฟีดโซเชียลเรา อุ๊ย! ทำไมชีวิตเขาได้ดีก็รู้สึกไม่ดีกระวนกระวาย ทั้งๆ ที่เราไม่รู้ด้วยว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไร เลยรู้สึกว่าถ้าเกิดเรามีตัวเลือกแบบไม่ยุ่งละกัน ไม่เกลียดละกันเพราะมันเหนื่อย
ก็เลยกลายเป็นว่า By Default เรามาโฟกัสที่แบบ โอเค ถ้าเราทำให้ดีที่สุดได้ เราทำอะไรให้คนอื่นหรือกับตัวเองได้ มันเลยแบบอยู่สบายอ่ะพี่วู้ดดี้ ใครจะมีปัญหากับเรา ใครจะมีเรื่องกับเรา ใครมาชวนตี เราเฉยๆ อ่ะ เพราะเรารู้สึกว่าไม่อยากยุ่งด้วยนะ เลยเหลือพลังงานเยอะขึ้นเลยครับ"
ภาพจาก : koendanai
ภาพจาก :
อินสตาแกรม koendanai
ข่าวแนะนำ