"ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ" ภาพยนตร์ ที่ส่ง "หลิวเต๋อหัว" ทะยานสู่ซุปตาร์เอเชียตลอดกาล

และแน่นอนภาพยนตร์ ที่แจ้งเกิด ส่งให้ “พี่หลิว” โด่งดังเป็นพลุแตก แหวกม่านดาราฮอลลีวูด สมัยนั้น คงหนีไม่พ้น “ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ” (A Moment of Romance) ภาพยนตร์ที่นนทนันท์ เอ็นเตอร์เมน นำมาฉายในเมืองไทยคั่นเวลา รอหนังฟอร์มยักษ์จากฝั่งฮอลลีวูดเข้าฉายแท้ๆ  แต่กลับเปรี้ยงกว่า ปังกว่า จนเกิดปรากฏการณ์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นยอดขายบัตรชมภาพยนตร์ ที่ทะลุหลักหลายสิบล้าน รวมทั่วโลก ก็ปาไปร้อยกว่าล้าน (ขนาดสมัยนั้นค่าตั๋วแค่ 20-30นะนั่น) 

                                                                            ภาพจาก CF Cinema

ไหนยังจะเป็นแฟชั่นจ๊าบๆ เสื้อแจ็คเก็ทยีน แว่นตาเลย์แบน กับรถมอเตอร์ไซต์คู่ใจของเฮียแก ที่โจ๋ในสมัยนั้นต้องไปตำตามกันทั่วทุกภูมิภาค 

ส่วนเพลงประกอบภาพยนตร์  “If the World Had Romance” ที่ร้องโดย “เชอร์ลีย์” ไม่ต้องพูดถึง ก็กอดคอกันแหวว ดังคู่ไปกับหนังนั้นแหละ  วัยรุ่น 90 คงจำ ทำนอง ตึ่ง.ตึ๊ง.ตึง.ตึง.ตึง.ตึ๊ง.ตึ่ง.ตึง  กับภาพพี่หลิวเดินถือหมวกกันน็อคเดินเท่ๆ ได้ดี ความปังของเพลงก็มีการนำมารีเมกในเวอร์ชั่นต่างๆ อีกมากมาย (ของไทยก็มีนะ ชื่อเพลง  “อยู่เพื่อใคร”) 

                                                                        ภาพจาก CF Cinema

แต่ที่ปังที่สุดของเรื่องก็คงต้องยกให้ “เฮียหลิว” แกนี่แหละ สามารถขึ้นแท่นซูเปอร์สตาร์ ออนทัวร์ ทั่วเอเชีย จำได้ว่ามาเมืองไทยครั้งนั้น “ติ่ง” (สมัยนี้คงเรียกแบบนี้) กรีดกันวัวตายควายล้ม มีการนำแกมาจับคู่จิ้นกับแดนซิ่งควีนสมัยนั้น อย่างเจ๊  “คริสติน่า อากีล่าร์” ให้สาวๆ ไทยได้อิจฉากันด้วย  เกิดคนเดียวไม่พอ ยังพา นางเอกของเรื่อง “อู๋ เชียนเหลียน” ปังปุริเย่ ตามไปด้วย 

หลังจากประสบความสำเร็จจากภาคแรก ‘ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ’ ก็มีตามมาอีก 2 ภาค   

ภาค 2 นางเอก  ‘อู๋ เชียนเหลียน’ คนเดิม เพิ่มเติมเป็นพระเอกใหม่ “กัว ฟู่เฉิง”  1 ใน 4 จตุเทพ ซึ่งตอนนั้นก็ดังมากๆ มารับบทแทน

ส่วน‘ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ภาค 3’ ซึ่งเป็นภาคสุดท้าย  “หลิวเต๋อหัว” กลับมารับบทคู่กับ “อู๋ เชียนเหลียน” อีกครั้ง

งานสร้าง เรื่องย่งเรื่องย่ออะไรไม่ต้องพูดถึงเนอะ คอหนังของแกจริงๆ แทบจะท่องไดอาล็อคได้อยู่แล้ว เพราะดูซ้ำเกิน 3 รอบกันแน่นอน