"ซิลวี่ ภาวิดา" เผยความคืบหน้าหลังเข้าแจ้งความ พร้อมเปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
"ซิลวี่ ภาวิดา มอริจจิ" เผยความคืบหน้าหลังเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเกรียนคีย์บอร์ดที่เข้ามาคุกคามตนและคุณแม่ พร้อมเปิดใจถึงเรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้น
หลังจากเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (5 สิงหาคม 2565) "ซิลวี่ ภาวิดา มอริจจิ" ได้เดินทางเข้าแจ้งความเหล่าเกรียนคีย์บอร์ดเข้ามาคุกคามทางเพศ (sexual harassment) ผ่านทางข้อความและคำพูดใส่ตน และคุณแม่ที่สถานีตำรวจลำลูกกา ซึ่งล่าสุดทางซิลวี่ก็ได้เปิดใจเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทางทีมข่าวฟังว่า หลังจากที่เธอมีการลงรูปใส่ชุดบิกินีอวดหุ่นที่สวยงามในแบบของตัวเองลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งเมื่อภาพถูกแชร์ออกไปมากยิ่งขึ้น คนที่ไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอทำ หรือไม่เข้าใจในการแต่งตัวแบบนี้ของเธอ ก็เข้ามาต่อว่า ด่าทอ หรือเผยข้อความคุมคามเธอจนรู้สึกไม่ปลอดภัย
ภาพจาก Facebook SilvyPavida
ภาพจาก Facebook SilvyPavida
แต่สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกไม่โอเคเป็นอย่างมากจนทนไม่ไหวนั้นคือ นอกจากจะคุกคามเธอแล้ว ยังมีการลามไปถึงคุณแม่อีกด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้เธอก็พึ่งรับรู้หลังจากที่เข้าไปเล่าเรื่องนี้ให้กับคุณแม่ได้ฟัง ตอนนั้นคุณแม่ถึงได้บอกกับทางซิลวี่ว่า มีผู้ชายโทรมาพูดว่า "ชอบโป๊หรอ ชอบในเรื่องสยิวใช่ไหม และใช้คำพูดที่ส่อแววเหมือนเป็นโรคจิต เพราะอาจคิดว่านั้นคือเธอที่เป็นคนรับโทรศัพท์" ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นั้นทางคุณแม่เองก็เหมือนจะเริ่มเลือกรับสายแปลกที่โทรเข้ามามากขึ้น
ภาพจาก Facebook SilvyPavida
ภาพจาก Facebook SilvyPavida
"ซิลวี่" จึงได้ปรึกษาเพื่อนๆ ว่าเธอนั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง และถ้าไปถึงขั้นฟ้องร้องต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เรียกร้องค่าเสียหายได้ถึงขนาดไหน มันก็มีหลายขั้นตอน ซึ่งตอนนี้เธอจึงเลือกเข้าแจ้งความดำเนินการทางกฎหมายเพียงการบันทึกเป็นแบบรูปคดี พร้อมกับยื่นหลักฐานต่างๆเอาไว้ก่อน ยังไม่ได้ดำเนินคดีไปถึงขั้นฟ้องร้องแต่อย่างใด เพื่อเป็นการแสดงให้เกรียนคีย์บอร์ดเห็นว่า เธอนั้นเอาจริงเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำ
ภาพจาก Facebook SilvyPavida
ภาพจาก Facebook SilvyPavida
ซึ่งซิลวี่นั้นยังได้เผยกับทีมข่าวอีกว่า จริงๆ แล้วอยากให้เรื่องไปถึงขั้นฟ้องร้องเหมือนกัน แต่ด้วยเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ นั้นเยอะประมาณหนึ่งกว่าที่จะไปถึงตัวคนคอมเมนต์ เธอจึงตัดสินใจยังไม่ให้ไปถึงขั้นนั้น อย่างน้อยวันนี้เธอก็ได้ออกมาทำเพื่อปกป้องตัวเองเท่าที่ทำได้แล้ว แต่ถ้าหากคนเหล่านั้นยังไม่หยุด เธอก็คงต้องดำเนินการอย่างจริงจังมากกว่านี้
ภาพจาก Facebook SilvyPavida
ภาพจาก Facebook SilvyPavida