"พอร์ส" Yes Indeed ควง "ทนายตั้ม" โชว์หลักฐาน พร้อมรับงานอย่างอิสระหลังส่งหนังสือถึงค่าย
"ทนายตั้ม" พา "พอร์ส นรากร อิสระวรางกูล" นักร้องนำของวง Yes Indeed ตั้งโต๊ะ แถลงข่าว ยืนยันรับงานได้อย่างอิสระหลังส่งหนังสือถึงค่าย
จากกรณีกระแสข่าวดังเมื่อ "พอร์ส นรากร อิสระวรางกูล" นักร้องนำของวง Yes Indeed ติดสัญญาค่ายดัง จึงเข้าพบ "ทนายตั้ม" หรือ "ทนายษิทรา เบื้ยบังเกิด" เพื่อปรึกษากรณีดังกล่าว ล่าสุด 20 ก.ค. ทนายตั้มตั้งโต๊ะแถลงกระแสข่าวร้อน พร้อมเผยว่า ค่ายไม่เคยมีการโปรโทมน้องพอร์สเลย พร้อมเปิดช่องทางโซเชียลของค่ายให้ดู และตั้งแต่น้องทำสัญญา ไม่เคยมีรูปน้องเลย และการที่น้องไปเล่นเพลงเรื่อยๆ คนติดตามเยอะขึ้น และวันนึงที่ไปเล่นที่สยาม คนรวมตัวเยอะมาก
รถติดหมดเลย คือวันสยามแตก หลังจากนั้นคนไปทำข่าว น้องๆ ที่เปิดหมวกเล่น แสงก็เริ่มมาและคนเริ่มสนใจ คือวันที่ 3 มิ.ย. และค่ายเริ่มมีบทบาท และพูดถึงน้องพอร์ส เริ่มแชร์ข่าว จากตอนแรกไม่มีเลย และเริ่มไปบอกสื่อหลายๆ สำนักว่าน้องเป็นศิลปินของค่ายตน ทั้งๆ ที่คุณพ่อขอเลิกตั้งหลายรอบแล้ว
ภาพจาก True Inside
ภาพจาก True Inside
และมีนักร้องท่านหนึ่งอยากแต่งเพลงให้แต่ค่ายไม่เอา และหลังจาก 3 มิ.ย. ค่ายติดต่อไปว่าจะเอาเพลง และตอนนี้ทางค่ายรู้ดีว่าพ่ออยากเลิกสัญญา เพราะทางค่ายไม่ส่งเสริมและไม่ต้องการที่จะปั้นน้องจริงๆ และตลอดระยะเวลาเป็นปีไม่มีการส่งเสริมยังไง และค่ายจึงออกรูปนี้มา ซึ่งเป็นภาพที่น้องไปชูตติ้ง ปี 64 ซึ่งเป็นภาพปีที่แล้ว พร้อมเผยว่าเตรียมพบกับซิงเกิลแรก ว่าตัวน้องเป็นศิลปินของทางค่าย และค่ายไม่เคยเอาน้องไปฝึก แม้แต่น้องไปทำกิจกรรม ค่ายไม่เคยสนับสนุนให้ รวมถึงอุปกรณ์ดนตรีด้วย เหตุการณ์หลังจากนี้ ค่ายก็ติดต่อสปอนเซอร์ วงของน้องพอร์ส
ภาพจาก True Inside
ภาพจาก True Inside
และอ้างวางตนมีสัญญากับน้อง จะติดต่องานอะไรจะต้องผ่านค่ายเท่านั้น และเก็บเปอร์เซ็นต์ และหลังจากนั้น น้องและวงได้มาปรึกษากับผม โดยมีสัญญามาให้ พร้อมเผยว่า สัญญาทำตอนน้องยังเป็นผู้เยาว์อยู่ ได้รับความยินยอมจากคุณพ่อ และสัญญาทางค่ายได้ประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว และไม่ได้ระบุว่าจะให้น้องพอร์สเท่าไหร่ยังไง ในทางกลับกันน้องไม่ได้ประโยชน์อะไร แต่ค่ายได้ตั้งแต่น้องเซ็นสัญญาเลย และเป็นสัญญาปิดกั้นโอกาสในการรับงานที่ตัวเองจะมีรายได้ จริงๆ น้องโด่งดังจากตัวน้องเอง ไม่ได้เกิดจากการปั้นแต่งของค่าย การที่ค่ายออกมาอ้างมองเป็นลักษณะเอาเปรียบเด็ก จึงทำให้น้องที่เป็นผู้เยาว์เสียหาย และเสียรายได้
ภาพจาก True Inside
ภาพจาก True Inside
ซึ่งผมได้ทำหนังสือไปถึงทางค่ายแล้ว พร้อมแสดงหลักฐานต่างๆ อันนี้เป็นไปตามกฎหมายแล้วเพราะถ้าผู้เยาว์เสียเปรียบคุณพ่อสามารถยกเลิกได้ และประกาศไว้เลย หากค่ายแถลงให้ข่าวทำให้น้องเสียหายดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งด้านทนายตั้มได้โชว์หนังสือสัญญาบอกเลิก กับสื่อมวลชนได้ดู และตอนนี้เป็นการยกเลิกสัญญาตามกฎหมายแล้ว และน้องไม่ได้ติดสัญญากับใคร รับงานและสร้างรายได้ให้ตัวเองได้
เพราะวันนี้ได้มาแถลงพร้อมหลักฐานหมดแล้ว และตอนนี้น้องไม่มีสังกัดตั้งแต่ส่งหนังสือไปหาทางค่ายแล้ว และเพื่อความชัดเจนน้องรับงานได้แบบอิสระ ด้านน้องพอร์สได้เผยว่าอยากทำสิ่งที่ตนรัก ก็อาจจะมีเรื่องกังวลบ้างหลังเจอเรื่องนี้ เราก็ต้องยอมรับฟัง อะไรที่ผิดก็ขอโทษครับ และหลังจากนี้จะร้องเพลงต่อไป ทำกับเพื่อนๆ แต่เรื่องเซ็นสัญญาค่ายขอให้เป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งทนายตั้มเผยว่า ถ้าค่ายดังมาติดต่อก็ได้เพราะตอนนี้น้องเขาฟรีแล้ว
ภาพจาก True Inside
ภาพจาก True Inside