"อดีตสามี-ลูกชาย" เปิดใจทั้งน้ำตา หลังสูญเสียอดีตนางแบบชื่อดัง "ติ๋ม เพ็ญพร ไพฑูรย์"
"อดีตสามี-ลูกชาย" ร่ำไห้เปิดใจ หลังสูญเสียอดีตนางแบบดัง "ติ๋ม เพ็ญพร ไพฑูรย์" เผย ทำใจมานานแล้วและแม่เป็นผู้หญิงที่เจ๋งคนนึง
วันที่ 25 เม.ย. 65 เวลา ที่วัดหลักสี่ ทางด้านครอบครัว ได้ออกมาเปิดใจทั้งน้ำตา หลังสูญเสียอดีตนางแบบชื่อดัง "ติ๋ม เพ็ญพร ไพฑูรย์" ที่จากไปอย่างสงบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สร้างความตกใจและใจหายให้กับครอบครัวและแฟนๆ รวมถึงเหล่าคนบันเทิงเป็นอย่างมาก
ภาพจาก True Inside
ภาพจาก True Inside
ภาพจาก Facebook บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์
ด้าน "ลูกชาย" ได้เปิดใจว่า "ด้านคุณแม่ไม่ได้สั่งเสียเลย เหตุการณ์เกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว เพราะเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่วันเสาร์ตอน 2 ทุ่ม วันอาทิตย์ไข้ลดแล้วบอกว่าอยากกลับบ้าน แต่ผมบอกให้คุณหมอดูให้ชัวร์แลแข็งแรงกว่านี้นิดนึงค่อยกลับ ซึ่งเราก็ได้จัดเตียงผู้ป่วยมาให้ เพราะกะว่ารักษาหายแล้วจะได้นั่งทานข้าวได้ ระหว่างอยู่โรงพยาบาลมีลูกน้องส่งข่าวตลอด ซึ่งเมื่อเช้าคุณหมอก็โทรมายังคุยเล่นกันอยู่เลย อาการดีขึ้นแล้ว ถ้าเกิดว่าหายจะให้กลับบ้าน และเมื่อ 7 โมงคุณหมอบอกหัวใจหยุดเต้นก็พยายามทำกู้ชีพ หมอก็บอกว่าถ้า 30 นาที ถ้าชีพจรไม่กลับมาก็ต้องทำตามขั้นตอน
ส่วนสาเกตุเกิดจากมีเลือดออกในช่องท้อง ตับอ่อนอักเสบ มีเลือดคลั่งอยู่ในระบบลำไส้และช่องท้องเยอะ เพราะว่าทานอะไรไปก็อ้วกตลอด อาเจียนเป็นเลือดดำๆ มาประมาณ 2 วัน เป็นมานานแล้ว พอออกจมูกปุ๊ปก็น็อกเลย จริงๆ แล้วเขาไม่ยอมเข้าโรงพยาบาล พอล่าสุดก็มีไข้ ทานยาแล้วไข้ไม่ลง อ้วกออกมาก็เลยจำเป็นต้องบังคับให้มาโรงพยาบาล เขาไม่ยอมบอกว่าไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ชอบโรงพยาบาล เขาเจ็บ เขากลัว เราก็ตามใจเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้ามาหาหมอก็ต้องมา
ภาพจาก Facebook บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์
ภาพจาก Facebook บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์
ก่อนหน้านี้คุณแม่มีโรคซึมเศร้าที่แจ้งว่ามียา แล้วก็วัณโรค แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักของการเสียชีวิต แล้วก็มีไทรอยด์อักเสบ แต่ผมมารู้เพิ่มเติมก็คือมีตับอ่อนอักเสบ แล้วก็มีเรื่องของกระเพาะ ลำไส้ที่อักเสบ เนื่องจากหลังๆ ทานอาหารไม่ค่อยได้ ผมก็ให้เป็นอาหารเสริมที่มีวิตามิน แล้วแร่ธาตุอยู่แล้ว หน้าตาก็ดีขึ้นสดใสขึ้น มาล่าสุดที่มาอาเจียนบ่อย ในช่วงระยะเวลาที่รักษาเขาบอกเขาจะอยู่อย่างนี้แล้วบอกจะไปของเขาเอง เราบอกไม่ได้ ก่อนเข้าโรงพยาบาลไม่มีอาการ เขาก็บอกมีบ่นเจ็บกระดูก เจ็นก้นกก เพราะลุกนั่งไม่ได้
จริงๆ ผมทำใจมานานแล้ว ด้วยสภาพร่างกายเขา ไม่มีกล้ามเนื้อเหลืออยู่เลย ผมไม่ได้พูดคุยหรือฝากฝัง มีแต่บอกว่าให้เขาปล่อยวางได้แล้ว ไม่ต้องคิดมากปัญหาต่างๆ เพราะตอนนี้ดูแลเขาได้แล้ว ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว พี่บิณฑ์มาช่วยเหลือเขา เขาดีใจมาก แต่กับทุกข์กว่าเดิมเพราะมีคนมาเอาเปรียบเขา มาเอาเงินเขาไป ผมก็บอกไม่ต้องสนใจ เพราะเราจะดูแลต่อเอง และมีความตั้งใจจะให้เขากลับมาวาดรูปได้เหมือนเดิม แต่ยังทำไม่สำเร็จ
ภาพจาก Facebook ดาราภาพยนตร์
ภาพจาก Facebook ดาราภาพยนตร์
ซึ่งล่าสุดเขาปล่อยวางแล้ว มันเป็นเรื่องของภายในใจเขา ไม่รู้เขาโดนใครทำอะไรมาบ้าง เขาถึงยังรู้สึกแย่อยู่ เพราะเขาพูดเองว่าตอนจนมีความสุขมากกว่านี้ ตอนนี้คุณไม่น่าจะไม่มีห่วงอะไรแล้ว ตอนที่ผมรับเขามาดูแลก็เต็มที่แล้ว ซึ่งผมดูแลเขามาตลอด แค่ไม่ออกตัว ซึ่งตอนแรกผมจะรับเขามาอยู่แต่เขาไม่มา เขาบอกขอแม่อยู่อย่างนี้ เขามีความกังวลว่าจะมาเดือดร้อนเรา กระทั่งล่าสุดเลขาพี่บิณฑ์ติดต่อมาให้รับแม่เข้ามาดูแล ผมก็ไปรับมา ซึ่งผมเพิ่งมารู้ข่าวตอนที่เห็นพี่บิณฑ์ไปช่วยว่าเขาผอมขนาดนั้น ยังบอกกับเขาอยู่เลยว่าจะพาไปเที่ยวทะเล แต่เขาก็มาจากไปก่อน
ส่วนผลงานของเขาก็คิดอยู่ว่าจะเอายังไง เบื้องต้นน่าจะเก็บไว้ก่อน หากมีใครสนใจค่อยว่ากันอีกที ซึ่งตอนไปหาคุณหมอไม่ให้เขาเยี่ยม ผมก็ให้กำลังใจเขา แล้วบอกเดี๋ยวมาเจอกันข้างนอก และมารู้ข่าวอีกทีก็วันนี้ ภาพจำของเราคุณแม่เป็นศิลปินที่เจ๋งคนนึง
ภาพจาก IG tooktung
ภาพจาก IG oui_rawiwan