ออสการ์ทวิตไม่สนับสนุนความรุนแรง หลัง "วิลล์ สมิธ" เดือดตบหน้า "คริส ร็อค"
ผู้จัดงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 ทวีตไม่สนับสนุนความรุนแรงทุกรูปแบบ หลัง "วิลล์ สมิธ" ขึ้นเวทีตบหน้า "คริส ร็อค"
วันนี้ (28 มี.ค. 65) ผู้จัดงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 ได้ทวีตข้อความว่า ทางผู้จัดไม่ยอมรับความรุนแรงทุกรูปแบบ หลังจากที่ วิลล์ สมิธ บุกขึ้นเวทีตบหน้า คริส ร็อค ที่กล่าวล้อเลียนภรรยาของตนกลางงานประกาศรางวัลที่กำลังถ่ายทอดสดไปทั่วโลกเมื่อช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาประเทศไทย
โดยระบุว่า "เรารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมเฉลิมฉลองให้กับผู้ชนะรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ด ครั้งที่ 94 ในวันนี้ ซึ่งสมควรได้รับการยกย่องจากเพื่อนร่วมวงการและบรรดาแฟน ๆ ภาพยนตร์ทั่วโลก"
การออกแถลงการณ์ของผู้จัดงานออสการ์มีขึ้นหลังจากวิลล์ สมิธ บุกขึ้นเวทีตบหน้า คริส ร็อค นักแสดงตลก ขณะที่เขากำลังขึ้นกล่าวในช่วงการประกาศรางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม
วิลล์ สมิธ เกิดอาการน็อตหลุด หลังคริส ร็อคเล่นมุกล้อเลียนทรงผมของ จาดา พิงคิตต์ สมิท ผู้เป็นภรรยา ซึ่งตัดสินใจโกนศีรษะเมื่อปีที่ผ่านมาเนื่องจากมีปัญหาผมร่วง โดยกล่าวว่า "จาดา ผมรักคุณ หวังว่าจะได้เห็นคุณแสดงจีไอ เจน ภาค 2 นะ" ซึ่งนางเอกของเรื่องโกนศีรษะด้วยเช่นกัน ซึ่งมุกตลกที่ไม่ตลกดังกล่าวทำให้วิลล์ สมิธ โกรธจัดจนตัดสินใจเดินขึ้นเวทีและตบหน้าคริส ร็อค
รายงานระบุว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คริส ร็อคพูดจาล้อเลียนคู่สามีภรรยาคู่นี้ โดยเมื่อปี 2559 วิลล์ สมิธและภรรยาตัดสินใจแบนการประกาศรางวัลออสการ์เนื่องจากขาดความหลากหลายทางเชื้อชาติ และคริส ร็อคก็ได้กล่าวล้อเลียนเหตุการณ์นั้นด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้ไม่นาน ก็มีการประกาศชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ซึ่งผลปรากฎว่า วิลล์ สมิธได้รับรางวัลดังกล่าว จากภาพยนตร์เรื่อง King Richard
เมื่อวิลล์ สมิธ ขึ้นรับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม เขาน้ำตาคลอ และกล่าวคำขอโทษคณะผู้จัดงานออสการ์และนักแสดงทุกคนที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในครั้งนี้ โดยวิลล์ สมิธกล่าวว่า "ความรักจะทำให้คุณกล้าทำเรื่องบ้าๆได้เสมอ" และในการกล่าวคำขอโทษบนเวทีครั้งนี้ วิลล์ สมิธ ไม่ได้เอ่ยชื่อคู่กรณีอย่างคริส ร็อค แต่อย่างใด
The Academy does not condone violence of any form.
— The Academy (@TheAcademy) March 28, 2022
Tonight we are delighted to celebrate our 94th Academy Awards winners, who deserve this moment of recognition from their peers and movie lovers around the world.
ภาพจาก AFP/รอยเตอร์