TNN "เต้ นันทศัย" เปิดใจเคยติดเหล้าหนัก ร่างกายทรุด ต้องพบจิตแพทย์ !

TNN

บันเทิง

"เต้ นันทศัย" เปิดใจเคยติดเหล้าหนัก ร่างกายทรุด ต้องพบจิตแพทย์ !

เต้ นันทศัย เปิดใจเคยติดเหล้าหนัก ร่างกายทรุด ต้องพบจิตแพทย์ !

นักแสดงหนุ่ม เต้ นันทศัย ที่วันนี้มาเปิดเส้นทางความรักกับแฟนสาวที่คบกันมายาวนานกว่า 20 ปี พร้อมเล่าเส้นทางสายนักเลง เคยติดเหล้าหนักมากถึงขั้นต้องพบจิตแพทย์ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow

เมื่อประมาณครึ่งปีที่แล้วมันมีข่าวว่าเต้จะไปอยู่ต่างประเทศเลย?

เต้ : ตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยว่างยาวๆ เลยครับ ถ่ายละครตลอด ช่วงที่ผมไปบ้านเราน่าจะมีปัญหาโควิดรอบที่3 อย่างหนัก แล้วละครที่ผมถ่ายไปทยอยปิดกล้องจนหมด แล้วเรื่องใหม่ก็ยังไม่เปิด ก็เลยมีโอกาสได้ไปต่างประเทศนานๆ เกือบ 5 เดือนครับ


ไปเพราะติดสาวหรือเปล่า?

เต้ : ก็ไปด้วยกันครับผม เรียกว่าไปดูลู่ทาง ความมั่นคงของอนาคตดีกว่า ผมโชคดีมีเพื่อนอยู่ที่อเมริกา เขามีร้านอาหารอยู่ที่นั่น 11 สาขา กำลังเปิดสาขาที่ 12 ซึ่งพอผมมีโอกาส มีเวลาว่างเยอะอยู่ก็ลองไปดูว่าถ้าไปอยู่จริงๆ จะอยู่ได้ไหม พอไปอยู่สนุกมาก เป็นประสบการณ์ใหม่ในชีวิตได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำ ที่ชอบมากที่สุดคืออากาศที่นั่น แล้วเราไปอยู่ได้เรียนรู้ทุกอย่าง ถ้าจะเปิดทำอะไรบ้าง ผมก็ได้ทำทุกอย่างเลยที่ร้านอาหารมี


ได้ข้อสรุปไหมว่าจะไปอยู่นู้นหรืออยู่นี่?

เต้ : พอกลับมาปุ๊บ เราอยู่ในช่วงว่งแผนอนาคตแล้ว รู้แล้วถ้าไปอยู่นั่นจริงๆ ต้องทำยังไง แต่ยังไม่ไปเร็วๆ นี้ ยังอยากทำงานที่นี่อยู่ ช่วงแรกๆ ก็อาจจะทำงานที่นี่ ถ่ายละครที่นี่ สัก 8-9 เดือน แล้วไปดูงานที่นู้นสัก 3 เดือน นี่คือการวางแผนเบื้องต้น อนาคตจะเป็นยังไงก็รอดูครับ ตอนนี้เพื่อนผม พี่ชายผม ไปอยู่นั้นแล้วพี่เจ จินตรัย


แล้วเจเขาจะกลับมารับงานที่นี่อีกไหม?

เต้ : ไม่ครับ


ทำไมเลือกไปเปิดร้านอาหารที่นั่น ไม่เปิดที่เมืองไทย?

เต้ : ถ้ามาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่สำหรับธุรกิจอาหาร คือผมก็ไม่มีความรู้ในการเปิดร้านอาหาร เพื่อนผมเขาทำมานานแล้ว เขาวางแผนให้หมดเลย


เต้คบกับแฟนมากี่ปี?

เต้ : 20 ปีครับผม


เจอกันครั้งแรกใครปิ๊งใคร?

เต้ : ผมชอบเขาก่อนครับ เขาเป็นเพื่อนของเพื่อน ซึ่งพอผมชอบ ผมก็ไม่ได้คุยกับเขาเลยตั้งแต่วันนั้น แต่ผมรู้จักเพื่อนเขา ผมก็เลยเข้าทางเพื่อนเขาว่าบอกให้หน่อยนะว่าชอบ


สมัยนั้นเจ้าชู้ไหม?

เต้ : ผมไม่เจ้าชู้ครับ แต่ ณ ตอนนั้นผมคบใครก็เลิกง่าย ตอนนั้นวัยรุ่นด้วย ความอนทน ความคิดแต่ตัวเอง เลยไม่เคยคบใครเกิน 1 ปีเลยครับ ตอนนั้นที่เจอคุณเก๋ ผมอายุ 20 ปี จนถึงวันนี้ก็ 20 ปีพอดี ซึ่งหลังจากเจอนั้นก็คบกับเขายาวเลย


อันนี้เพราะคุณเก๋อายุมากกว่าด้วยไหม เขาเป็นผู้ใหญ่ เลยเหมือนรู้ทางเรา?

เต้ : จริงครับ ทุกวันนี้เขาเป็นทั้งภรรยาผม เป็นทั้งแม่ผม เขาเป็นคนที่ปรับเปลี่ยนทัศนคติในชีวิตผมทุกอย่าง ตอนนั้นหม 20 เขาอายุ 26  ห่างจากผมประมาณ 6-7 ปี ซึ่งผมก็คิดว่าอายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข แต่สิ่งที่เขาทำให้ผมคือเขาปรับเปลี่ยนทุกอย่างในชีวิตผมเลย ณ ตอนนั้นผมยังเด็กอยู่ ได้มาใช้หมด แต่พอคบกับเขา เขาวางแผนให้หมดเลยใช้อย่างนี้ไม่ได้ ผมบอกเลย ถ้าผมไม่เจอเขา ตอนนี้ผมอาจจะไม่ได้นั่งตรงนี้แล้วก็ได้ ผมอาจจะหลุดออกจากวงการไปแล้วก็ได้


ช่วงอายุ20 เต้ดังมากๆ การเปิดตัวแฟนก็ยากมากๆ เราต้องแอบคบกันไหม?

เต้ : ไม่เลยครับ เราไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด ไม่เคยหลบๆ ซ่อนๆ หรือแอบอะไร ก็แปลกดีเหมือนกัน ไม่มีผลกับคู่ผมเท่าไหร่


มันมีช่วงจังหวะที่เราเขวบ้างไหม?

เต้ : ไม่มีเลยครับ ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร ผมรู้สึกว่ายิ่งผูกพันกันมากขึ้น แต่ก็มีบางช่วงเขาบอกผมเหมือนกันว่า ถ้าเธอไม่รักตัวเอง เรารักเธอนะ แต่ถ้าเธอไม่รักตัวเองเราก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ เพราะช่วงชีวิตผม ณ ตอนนั้นมีเรื่องราวเยอะแยะมากมาย


เพื่อนๆ พูดยังไงถึงแฟนเราบ้าง?

เต้ : ส่วนใหญ่เพื่อนจะกลัวแฟนผม คือเกรงใจครับ เวลาเพื่อนๆ มีปัญหาอะไรก็จะโทรมาปรึกษากับเก๋ตลอด


มีเรื่องที่คุณเก๋ดุคุณเต้หรือเพื่อนๆ ไหม?

เต้ : ถ้าดุผมก็เรื่องสมัยก่อนกินเหล้าจัด กินหนักเกินไปกินจนแบบเห้ย...เธอคิดว่าพรุ่งนี้จะไม่ได้กินแล้วเหรอ กินแบบถวายชีวิต


เวลาที่เราติดเพื่อนหนักๆ คุณเก๋เขาทำยังไง ให้เราเพราๆ ลงนะ?

เต้ : เขาพูดเสมอว่าคนเราต้องรักตัว ต้องดูแลตัวเองนะ ถ้าเรารักตัวเองไม่ได้ เราจะรักคนอื่นได้ไง เขาก็สอนเรา เตือนเรา


คบกัน 20 ปีมีแพลนจะแต่งงานบ้างไหม?

เต้ : เอาจริง ผมอยากจัดงานแต่งมากครับ แต่ทางแฟนเขาบอกอย่าจัดเลย เปลืองเงิน เอาเงินไปทำธุรกิจ เอาไปลงทุนดีกว่า เขาพูดเสมอว่าไม่ต้องจัดนะงานแต่ง แค่เราตื่นมาเจอกัน หันมายิ้มให้กันตอนเช้าแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว แต่วันนึงจัดแน่นอนครับ แต่อาจจะจัดแบบเล็กๆ กันเองแบบครอบครัว


วางแผนจะมีลูกไหม?

เต้ : ผมอยากมีลูกตั้งแต่ 25 ไม่เกิน 30 แต่พอถึงเวลาจริงๆ ณ ตอนนั้นยังไม่พร้อม พอเวลาผ่านไปจนถึงตอนนี้เราคุยกันแล้วว่าน่าจะไม่มีแล้วครับ น่าจะอยู่ด้วยกัน 2 คนตา ยาย แล้วครับ


เต้บอกว่าสังคมไม่น่าอยู่?

เต้ : สังคมทุกวันนี้อย่างที่เราเห็นๆ กันก็น่ากลัวนิดนึง แต่ไม่รู้คิดมากไปเองหรือเปล่า แต่ผมรู้สึกว่าผมมีความรักที่เต็มเปี่ยมอยู่แล้ว ไม่มีลูกไม่เป็นไร ผมเอาความรักของผมให้เขาคนเดียวก็พอแล้วครับ


ที่คุณเก๋บอกถ้าไม่รักตัวเอง แล้วจะ...ตอนนั้นเหตุการณ์เราติดเพื่อน แล้วก็ติดแอลกอฮอล์ด้วยไหม?

เต้ : หนักมากครับ ผมดื่มตั้งแต่วัยรุ่นเลยครับ ตั้งแต่สมัย 10 กว่า พอคบเขาอายุ 20 ยิ่งช่วงพีคของชีวิตเลยดื่มทุกวัน ติดเหล้า แล้วดื่มทีข้ามวัน ข้ามคืน อยู่อย่างนั้นมาเป็นเวลา 10 ปี จนอายุ 30 มันมีผลต่อร่างกายเยอะครับ ข้างในเริ่มไม่ไหว ผลภายนอกเวลาเราออกกล้อง เราเห็นเลยหน้าเราเริ่มบวม หุ่นเริ่มพัง แล้วภายในมันเริ่มแย่ เชื่อไหมว่าผมหนักจนถ่ายเป็นเลือด นั่งถ่ายชักโครกเชื่อไหมว่าเลือดพุ่งติดประตูห้องน้ำเลย จนผมไม่ไหวแล้วต้องไปหาหมอตรวจร่างกาย และหาหมอจิตแพทย์จะทำยังไงให้เลิกแอลกอฮอล์ให้ได้


เราเจออะไรในร่างกาย?

เต้ : มันเริ่มทำลายอวัยวะภายใน โดยเฉพาะเริ่มกัดสมอง คิดอะไรก็ต้องนึก มันก็มีผลต่อชีวิตในการทำงานเหมือนกัน แต่เวลาทำงานผมจะไม่ดื่ม


เป็นอยู่นานไหมอาการติดแอลกอฮอล์?

เต้ : เป็นอย่างนี้มาเป็นปีครับ พอเป็นอย่างนั้นรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ต้องไปหาคุณหมอ แฟนผมติดต่อคุณหมอ หาที่คุย หาจิตแพทย์ดีๆ ให้ พอไปคุยคุณหมอก็ให้ยามากิน ยาตัวนี้มันทำให้ไม่อยากแอลกอฮอล์ พอดื่มมันรู้สึกเหม็นๆ ไม่ค่อยอยากกิน ผมกินยาอยู่ประมาณ 1 เดือน พอผมกิน ผมรู้สึกเหมือนเป็นคนป่วยยังไงไม่รู้ ผมเลยบอกว่าผมไม่อยากเป็นคนป่วย ผมจะไม่กิน ผมจะเลิกไปหาหมอ ผมจะหักดิบเอา เลิกกินแล้วก็เปลี่ยนชีวิตใหม่ ดูแลเรื่องอาหาร คุมอาหาร แล้วก็ออกกำลังกาย เลยเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต ก็ต้องขอบคุณเขาจริงๆ ถ้าไม่มีเขา ผมก็คิดไม่ได้


ณ วันที่เราถ่ายออกมาเป็นเลือดแล้วพุ่งติดประตูเนี่ย เรากลัวตายไหม?

เต้ : จังหวะนั้นก็กลัวครับ แต่พอจังหวะจะกินลืม ไม่สนใจไม่แคร์


ตอนนั้นคุณเก๋มียื่นคำขาดอะไรไหม?

เต้ : ที่เขาบอกว่าที่เธอไม่รักตัวเอง ไม่ดูแลตัวเอง เราก็ควอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว เขาบอกเรารักเธอนะ แต่เธอต้องรักตัวเองก่อน มันก็ทำให้ผมคิดได้แล้วเปลี่ยนแปลงตัวเอง


ทุกวันนี้ถ้าสมมติมีปาร์ตี้เรายังดื่มไหม?

เต้ : ทุกวันนี้ยังมีดื่มบ้างครับ แต่ไม่เป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ดื่มเป็นโอกาส


เห็นว่าเป็นนักเลงมาก่อน?

เต้ : เป็นนักรบ เวลาไปเที่ยวไปกินเหล้า ไปเป็นกลุ่มใหญ่  เป็นธรรมดาครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเพื่อน ใครทำเพื่อนผมไม่ได้ ใครทำเพื่อนผมไม่ยอม พอมีเรื่องกันผมก็เป็นตัวเปิดเลย ตัวเริ่ม เอาเป็นว่าเมื่อก่อาเพื่อนผมเริ่มกลัวผมแล้ว ผมใจร้อนมาก สองมือรวมกันรอยเย็บต้องมี 30 เข็มครับ ส่วนมากโดนแก้ว


ตอนนั้นเราห่วงไหมว่าคนจะหาว่าเราเป็นดารานักเลง?

เต้ : ยุคนั้นโชคดีครับ โทรศัพท์ยังไม่มีกล้อง โซเชียลยังไม่มี เวลามีเรื่องจะรู้แค่กลุ่มเล็กๆ ตรงนี้ ถ้าเกิดเป็นตอนนี้เรียบร้อยครับ


มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมาทักเต้ ว่าถ้าเต้ใช้ชีวิตแบบนี้อาจจะไม่มีชีวิตยืนยาวได้?

เต้ : ตอนผมอายุ 10 กว่า 20 ผู้ใหญ่ที่เป็นเจ้าของสังกัดที่ผมอยู่ อายุไม่ถึง 25 หรอก คือผมใช้ชีวิตเสี่ยงมาก


เขาเม้าท์กันว่าจริงๆ เต้เหมือนเป็นไบๆ เป็นเกย์หรือเปล่า?

เต้ : อาจจะเป็นช่วงนึงทีาผมถ่ายเซ็กซี่ค่อนข้างเยอะ ก็อาจจะมองได้ แต่จริงๆ ไม่ได้เป็น สิ่งที่ผมโดนเยอะมากที่สุด คือผมไปเข้าห้องน้ำ ผมจะโดนแอบดูน้องชายเยอะมากครับ ผมบอกเลยแอบดูตรงโถปัสสาวะคือเรื่องธรรมดาเลย ไปยืนปุ๊บจะมาละ จนผมต้องมองหน้าเขาเลย กล้าอย่างนี้เลยเหรอ แรกๆ เราก็เกรงใจ หลังๆ ก็ต้องพูดแรงๆ แบบมองอะไรว่ะ หลังเริ่มโมโห ซึ่งเรื่องแบบนี้ปกติเลยครับ ผมปีนตอนเข้าห้องส้วม แล้วไม่ได้โดนครั้งเดียวนะ โดนบ่อยด้วย จนทุกวันนี้ผมไปเข้าห้องน้ำสาธารณะ เข้าปุ๊บผมสังเกตสองข้างก่อนเลย มีคนอยู่ไหม มีคนตามไหม


คนที่ปีนดูเราเพศไหน?

เต้ : ผู้ชายครับ ตามเข้ามาในห้องน้ำชาย ซึ่งผมเคยเจอแบบผมไปเข้าห้องน้ำห้องน้ำหนึ่ง พอเข้าไปปุ๊บ มีเข้ามาห้องข้างๆ ทันทีเลย ผมโดนบ่อยแล้ว เลยสังเกตเป็นเงา ปวดก็ปวด ปลดออกหมดแล้วนะ แต่ยังไม่ปล่อย เชื่อไหมไม่ถึง 5 วินาทีมือเขามา


ฝากอะไรถึงคนที่ชอบมาส่องเราหน่อยไหม?

เต้ : อย่ามาดูกันเลยครับ เราก็มีเหมือนกัน แค่อาจจะไม่เท่ากันแค่นั้นเองครับ


เต้ นันทศัย เปิดใจเคยติดเหล้าหนัก ร่างกายทรุด ต้องพบจิตแพทย์ !


เต้ นันทศัย เปิดใจเคยติดเหล้าหนัก ร่างกายทรุด ต้องพบจิตแพทย์ !


เต้ นันทศัย เปิดใจเคยติดเหล้าหนัก ร่างกายทรุด ต้องพบจิตแพทย์ !


เต้ นันทศัย เปิดใจเคยติดเหล้าหนัก ร่างกายทรุด ต้องพบจิตแพทย์ !

ข่าวแนะนำ