เลือกตั้ง 2566 "ศิริกัญญา" เปิดความจำเป็นต้องมีตำแหน่งประธานสภาฯไว้กับก้าวไกล
เลือกตั้ง 2566 "ศิริกัญญา" รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เผยความจำเป็น ก้าวไกลขอครองเก้าอี้ประธานสภาฯ มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยไม่ถอนตัวร่วมรัฐบาล
เลือกตั้ง 2566 "ศิริกัญญา" รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เผยความจำเป็น ก้าวไกลขอครองเก้าอี้ประธานสภาฯ มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยไม่ถอนตัวร่วมรัฐบาล
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงชี้แจงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล หลัง 8 พรรคมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกันแล้วว่า ได้รับความตอบรับในเชิงบวก ทั้งจากพรรคร่วมฯและประชาชน ที่มีความขัดเจนทั้งจุดยืนและนโยบาย รวมถึงสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ส.ส่วนหนึ่ง มีความเข้าใจมากขึ้น และยอมรับหลักการในการสนับสนุนให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้เป็นนายกรัฐมนตรีมากขึ้น แต่พรรคก้าวไกลก็จะยังคงเดินหน้าเจรจากับ ส.ว. เป็นรายบุคคลต่อเนื่อง เพื่อให้ได้เสียงสนับสนุนที่เพียงพอ และยังมั่นใจว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.เพียงพอ ซึ่งเสียง ส.ว.ที่พรรคก้าวไกลรวบรวมได้ขณะนี้มีแล้วประมาณ 19 เสียง
การเดินสายของพรรคก้าวไกลในการพบผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. โดยยืนยันว่า พรรคก้าวไกล เน้นการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเป็นธรรม ส่งเสริมแรงงาน และผู้ประกอบการให้เติบโตได้ และลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งหลังจากนี้ พรรคก้าวไกล จะยังคงเดินหน้าพบสภาแรงงาน สภาหอการค้าไทยและภาคส่วนต่างๆต่อไป เพราะพรรคก้าวไกล มั่นใจว่า การเดินหน้าพูดคุย จะสร้างความเข้าใจระหว่างพรรคฯกับภาคส่วนต่างๆมากขึ้น
นางสาวศิริกัญญา ยังย้ำความจำเป็นที่พรรคก้าวไกล จะขอรักษาตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรไว้ว่า พรรคก้าวไกล จำเป็นจะต้องมีตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะนอกเหนือจากการใช้อำนาจบริหารแล้ว พรรคก้าวไกล ยังมี 3 วาระความจำเป็นที่ต้องมีตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อผลักดันกฎหมาย ตามนโยบายที่พรรคได้หาเสียงไว้
รวมถึงผลักดันร่างกฎหมายของพรรค เพื่อความรวดเร็ว เพราะ 4 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่า ประธานสภาฯความจำเป็นในการผลักดัน หรือขัดขวางร่างกฎหมายต่างๆ รวมถึงพรรคก้าวไกล ยังจำเป็นต้องสนับสนุการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เห็นตรงกันและบรรจุไว้ใน MOU ดังนั้น การจะดำเนินภารกิจให้ลุล่วง จำเป็นต้องอาศัยการประชุมรัฐสภาหลายครั้ง จึงจำเป็นต้องรักษาตำแหน่งประธานรัฐสภาไว้
นอกจากนั้น พรรคก้าวไกล ยังมีเจตจำนงค์ในการผลักดันนโยบายรัฐสภาโปร่งใส สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้วยการเพิ่มช่องทางการถ่ายทอดสดการประชุมกรรมาธิการฯ และอนุกรรมาธิการฯ ให้ประชาชนตรวจสอบได้อย่างเข้มข้น และการตั้งสภาเยาวชน เพื่อฟังเสียงเยาวชน และเพิ่มช่องทางการแสดงออก โดยให้ขึ้นตรงกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น พรรคฯ จึงจำเป็นต้องครองตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรไว้
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกล ยังคงยืนยันจะครองตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรไว้เอง เป็นเพราะยังกังวลพรรคเพื่อไทยจะมีการตั้งรัฐบาลแข่งหรือไม่นั้น นางสาวศิริกัญญา ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นข้อกังวล เพราะพรรคก้าวไกลไม่ได้ยึดติดตำแหน่ง แต่พรรคฯได้ชี้แจงสื่อสารวาระความจำเป็นไว้แล้ว ที่จะต้องผลักดันนโยบาย และกฎหมายของพรรค
ซึ่งการเจรจาหลังจากนี้ พรรคก้าวไกล ก็จะนำวาระความจำเป็นของพรรคก้าวไกลไปสื่อสารกับพรรคเพื่อไทย เพื่อให้มีความเข้าใจ และยั่งมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยจะยังร่วมหัวจมท้ายกับพรรคก้าวไกล และไม่เชื่อว่า จะมีการเสนอชื่อ หรือจัดตั้งรัฐบาลแข่ง ซึ่งในกระบวนการเจรจาจะต้องได้ข้อยุติก่อนที่จะไปถึงขั้นการลงมติอิสระของแต่ละพรรคการเมือง ตามที่มีแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาเรียกร้องก่อนหน้านี้
ส่วนกระแสการถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย หากไม่ได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทย จะยังคงร่วมเป็นรัฐบาลต่อและเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยจะเห็นความหวังของประชาชน ที่พรรคร่วมฯสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร จะมีการเจรจาภายหลังต่อไป และมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยจะยังร่วมรัฐบาลไม่ว่าจะได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ และไม่มีความเชื่อใด ๆ ว่า พรรคเพื่อไทยจะถอนตัวการร่วมรัฐบาล ทั้งสัญญาณจากการลงนามการหารือต่างๆ
ส่วน ส.ส.ของพรรคก้าวไกลที่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น นางสาวศิริกัญญา ยอมรับว่า พรรคก้าวไกล มีการพูดคุยกัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะเป็นบุคคลใด แต่ยืนยันว่าพรรคก้าวไกล มี ส.ส.หลายคนที่มีความเหมาะสม ไม่เฉพาะการควบคุมการประชุม แต่ยังเป็นการขับเคลื่อนฟื้นฟูประชาธิปไตยด้วย และย้ำว่าบุคคลากรของพรรคฯมีศักยภาพแน่อน โดยจะมีการเปิดเผยรายชื่อ ก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกตำแหน่งประธานสภาฯ แน่นอน
นางสาวศิริกัญญา ยังกล่าถึงกรณีที่ กกต.เตรียมรับรองผลการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคก้าวไกล ชนะการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต 112 เขตการเลือกตั้งว่า พรรคก้าวไกล ยืนยันตามจำนวนของ กกต. และเมื่อรวม ส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวน ส.ส.ของพรรคขณะนี้ มีทั้งสิ้น 151 ที่นั่ง ซึ่งจะไม่กระทบต่อการคาดการณ์ และการจัดตั้งรัฐบาลแต่อย่างใด พร้อมมองว่า การรับรองผลการเลือกตั้งของ กกต. ที่รวดเร็วนี้ ทำให้พรรคฯสามารถเดินหน้าตั้งรัฐบาลได้เร็วขึ้น และการเจรจาต่าง ๆ คาดว่า น่าจะเสร็จสิ้นลงได้อย่างรวดเร็วภายใน 2 อาทิตย์นี้
ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ จะเป็นการเจรจากับพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลและการแบ่งกระทรวง และตำแหน่งรัฐมนตรี รวมถึงตำแหน่งสำคัญอื่น ๆ พร้อมหารือนโยบายที่พรรคร่วมฯยังเห็นต่าง ทั้งในกระบวนการและวิธีการเพื่อหารือร่วม โดยเฉพาะนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ว่า พรรคเพื่อไทย จะดำเนินการหรือไม่ รวมถึงนโยบายการขึ้นค่าแรง 450 บาท 100 วันแรกของรัฐบาล เพราะการจัดสรรกระทรวงไม่เสร็จสิ้น ดังนั้นจึงจะต้องพูดคุยเพื่อให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ก่อนที่จะสรุปเป็นแนวนโยบายที่รัฐบาล จะแถลงต่อรัฐสภา
ด้านนโยบายกัญชา ที่พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลประกาศจะนำกลับไปไว้ในบัญชียาเสพติด โดยยืนยันว่า เมื่อการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น จะมีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด โดยที่จะต้องไม่กระทบต่อผู้ประกอบการ และผู้ปลูกกัญชา ที่ทำถูกต้องตามกฎหมายแล้วแน่นอน ด้วยการออกประกาศคุ้มครองผู้ปลูก และผู้จำหน่าย ที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างไม่มีปัญหา
นางสาวศิริกัญญา ยังกล่าวถึงความขัดแย้งระหว่าง นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี แกนนำพรรคไทยสร้างไทย กับ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพ่อไทย โดยเชื่อว่า ทั้ง 2 เป็นผู้ใหญ่ และจะสามารถคลี่คลายข้อพิพาทกันได้ หรือหากพรรคเพื่อไทย ต้องการให้พรรคก้าวไกล เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ย พรรคเพื่อไทยก็ยินดี พร้อมมองว่า กระแสความไม่ลงรอยกัน ระหว่างพรรคก้าวไกล ไทยสร้างไทย และเพื่อไทยนั้น เป็นเรื่องธรรมชาติ ดังนั้นจึงควรต้องมีการเจรจาพูดคุย เพื่อคลี่คลายความเข้าใจผิด
นอกจากนี้ นางสาวศิริกัญญา ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการเจรจาดีลลับ เพื่อตั้งรัฐบาลแข่งที่ฮ่องกง โดยมั่นใจว่า กระแสข่าวดังกล่าวเป็นเพียงข่าวลือ แม้จะมีการพูดคุยกันตริง แต่เชื่อว่าจะไม่ใช่การพูดคุยเรื่องการตั้งรัฐบาล และยังเชื่อใจในพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วยกัน
ภาพจาก พรรคก้าวไกล