ออมสินจับตาลดดอกเบี้ย-นโยบายทรัมป์
"ออมสิน" ตั้งเป้าปี 68 คนไทยเข้าถึงแหล่งเงินมากขึ้น จับตาลดดอกเบี้ย ช่วยประชาชนได้ และนโยบายทรัมป์ ที่คาดว่าจะกระทบเศรษฐกิจ
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในปี 2568 ปัจจัยที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด คือ อัตราดอกเบี้ย ถือเป็นเรื่องท้าทายการบริหารจัดการของธนาคารทั้งระบบ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ตามการปรับลดลงของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ถึงแม้ธนาคารในประเทศไทยจะปรับลดลงไม่มาก แต่ก็จะส่งผลกระทบต่อส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ( NIM) เพราะส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับเงินฝากก็ต้องปรับลดลง โดยในส่วนของธนาคารพาณิชย์เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลงก็จะต้องบริหารจัดการมิให้กำไรลดลงมาก ขณะที่ธนาคารรัฐ กำไรจะลดลงมากเนื่องจากต้องดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือประชาชนลดดอกเบี้ย แก้หนี้ และช่วยกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงสินเชื่อ ได้เข้าถึงสินเชื่อ
อย่างไรก็ตามการปรับลดดอกเบี้ยจะช่วยคนได้เยอะมาก เพราะคนเป็นหนี้ จ่ายเงินต้นได้มากขึ้น หนี้ก็จะลดลงไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกันจะทำให้มีเงินเหลือในกระเป๋า นำไปจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ส่วนอีกปัจจัยที่ท้าทายในปีนี้ คือ นโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเข้าสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ วันที่ 20 ม.ค.นี้ เชื่อว่าจะมีผลกระทบอย่างแน่นอน สิ่งที่สำคัญและมีความเป็นไปได้ จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างแน่นอน แต่จะลดไปถึงเท่าใดนั้น ต้องติดตามใกล้ชิดจริงๆเพราะคาดการณ์ยากมาก
สำหรับการดำเนินงานของธนาคารออมสินในปีนี้ ยังคงมุ่งมั่นที่จะช่วยคนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนและเข้าสู่ระบบการเงินอย่างถูกต้อง ลดการเป็นหนี้นอกระบบ ช่วยแก้หนี้ปรับโครงสร้างหนี้ ให้ลูกหนี้ที่มีปัญหามีความคล่องตัวทางการเงินมากยิ่งขึ้น การพัฒนาองค์กรให้เติบโต การสนับสนุนนโยบายภาครัฐ โดยตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อใหม่ 80,000-100,000 ล้านบาท เงินฝาก 100,000 ล้านบาท ขณะที่กำไรไม่เกิน 27,000 ล้านบาท
ที่มา TNN
ข่าวแนะนำ