อสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ร้อนแรง เติบโตแซง กรุงเทพฯ l การตลาดเงินล้าน

ปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน เพราะเศรษฐกิจในประเทศยังคงฟื้นตัวอย่างเปราะบาง

มติชน รายงานว่า นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2568 ในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวทั้งภูเก็ตและพัทยายังเติบโตไปในทิศทางค่อนข้างดีและยังขาขึ้น ขณะที่ซัพพลายอาจจะมีปรับตัวลดลงบ้าง หลังมีเปิดตัวไปค่อนข้างมากในปีที่ผ่านมา ทั้งคอนโดมิเนียม และพูลวิลล่า สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ มองว่าเป็นช่วงขาลง เนื่องจากภาพรวมตลาดค่อนข้างเงียบ 

โดยช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา มีการเปิดตัวใหม่ค่อนข้างน้อย ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีเปิดตัวประมาณ 30,000 ยูนิต ยังไม่กลับสู่ช่วงพีคที่เคยเปิดตัว 50,000-60,000 ยูนิต และจะมีโปรเจ็กต์ไฮไลต์เปิดตัวหลายโครงการ

ขณะที่ปัจจุบันเทรนด์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต จะเป็นการซื้อเพื่อการลงทุนร้อยละ 80 และอยู่เองร้อยละ 20 โดยเฉพาะต่างชาติที่มีความต้องการค่อนข้างสูง ทำให้ตลาดภูเก็ตเติบโตค่อนข้างมาก ประกอบกับกำลังซื้อคนไทยในประเทศเนื่องจากที่ผ่านมาการเข้าถึงสินเชื่อยากในกลุ่มรายย่อย รวมถึงภาวะเศรษฐกิจยังไม่ดี และดอกเบี้ยขึ้น แม้จะมีการปรับลดลงแต่ยังอยู่ในระดับสูง จึงทำให้ไม่มีปัจจัยบวกไปกระตุ้นกำลังซื้อให้อยากจะซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้กลุ่มลูกค้าเป็นคนรุ่นใหม่มองว่าการเช่าน่าจะดีกว่าการก่อหนี้ในระยะยาวในช่วงนี้ ทำให้เทรนด์บางส่วนมองว่าเช่าดีกว่าซื้อ 

ทั้งนี้ เทรนด์การลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่ภูเก็ต เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวและการบริการ ถือว่ามีครบวงจร โดยดีมานด์บางส่วนที่ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า โดยเฉพาะตลาดต่างชาติ ซึ่งได้ผลตอบแทนสูงร้อยละ 7-8 จึงทำให้อสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตที่ผ่านมาคึกคัก 

ขณะที่ศูนย์การค้าก็ประกาศแผนลงทุน ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ระบุว่า CPN ประกาศลงทุนเพิ่ม 1,000 ล้านบาท ในเซ็นทรัล ภูเก็ต ด้วยการขยายพื้นที่เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มกำลังซื้อสูง โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างพื้นที่ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 และคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2570 

ส่วนราคาที่ดิน พบว่าเติบโตก้าวกระโดดในรอบ 20 ปี เพิ่มขึ้นถึง 7 เท่า หรือ 700% โดยเฉพาะ "หาดราไวย์" ราคาที่ดินปรับตัวสูงสุดและ ‘ย่านบางเทา’ ที่ถูกขนานนามว่า ทองหล่อแห่งภูเก็ต 

ด้านศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ประเมินว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์อาจผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 3 ปี 2567 และจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 1 ปี 2568 ทำให้แนวโน้มปี 2568 ทั้งปีคาดว่าจะมีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยจำนวน 363,600 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 จากปี 2567 ที่คาดว่า การโอนกรรมสิทธิ์จะลดลงจากปีก่อนหน้าร้อยละ 4.4