ส่อง 5 เทรนด์ธุรกิจปี 2025 รับมือความท้าทาย ปรับตัวรับเทคโนโลยี l การตลาดเงินล้าน
finbiz by ttb เปิด 5 เทรนด์ธุรกิจมาแรงและมีโอกาสเติบโตได้ดีใน 2568
5 เทรนด์ธุรกิจที่น่าลงทุน เริ่มจาก "Pet Parent" ปีนี้สัตว์เลี้ยงจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในครอบครัว จะเห็นการเพิ่มขึ้นของความต้องการบริการเกี่ยวกับสุขภาพสัตว์เลี้ยง สินค้าพรีเมียม และการดูแลแบบเฉพาะทาง เช่น บริการตรวจสุขภาพประจำปีสัตว์เลี้ยง พร้อมให้คำปรึกษา ซึ่งการให้คำปรึกษาด้านการเลี้ยงสัตว์ออนไลน์ก็อยู่ในความสนใจ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และอุปกรณ์ติดตามสุขภาพสัตว์เลี้ยง
เทรนด์ที่ 2 ผู้สูงอายุดิจิทัล เนื่องจากประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างเต็มตัว จึงมีความต้องการด้านบริการดูแลสุขภาพมากขึ้น ดังนั้นเทคโนโลยีดิจิทัลที่ใช้งานง่ายจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ ทั้งในด้านการให้คำปรึกษาสุขภาพ และบริการต่าง ๆ ที่รองรับการดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร ปัจจุบันผู้สูงอายุเปิดรับการใช้งานผ่านเทคโนโลยีมากขึ้น จึงเป็นโอกาสสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้สูงวัย
แนวทางธุรกิจต้องสร้างผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ใช้งานง่ายและเหมาะกับผู้สูงอายุ ส่วนงานบริการที่เหมาะสมเช่น บริการนำเที่ยวที่เหมาะกับผู้สูงอายุ ที่พักอาศัยที่มาพร้อมกับการดูแลและการรักษาพยาบาล
เทรนด์ที่ 3 พลังงานสะอาด สู่อนาคตที่ยั่งยืน มีแนวโน้มการใช้พลังงานสะอาดจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความต้องการลดคาร์บอน รวมถึงวิทยาการ นวัตกรรม ต่าง ๆ ที่จะช่วยลดการใช้พลังงาน หรือการผลิตพลังงานสะอาดด้วยเทคโนโลยี ทำให้ผู้บริโภคตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ดังนั้นแนวทางในการทำธุรกิจควรเน้นลงทุนพลังงานหมุนเวียน เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อลดต้นทุนพลังงานในระยะยาว ปรับกลยุทธ์การผลิตเพื่อลดคาร์บอน และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
เทรนด์ที่ 4 คือการใช้เอไอและระบบอัตโนมัติ โดยบริษัททั่วโลกจะมีการใช้ เอไอในกระบวนการธุรกิจ ตัดสินใจด้านข้อมูล ให้บริการที่ทันสมัย ไปจนถึงกิจกรรมด้านการตลาด โดยเอไอจะถูกใช้เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกปรับปรุงกระบวนการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้า ดังนั้นการใช้เอไอเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลจะมีความสำคัญและมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคอย่างมาก
สุดท้ายเทรนด์ที่ 5 การเข้าสู่สังคมไร้เงินสด และการเติบโตของการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน ยังคงเป็นอีกหนึ่งเทรนด์สำคัญในปี 2568 โดยเฉพาะการขยายตลาดในภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน อินเดีย ที่พบว่ามีการเติบโตต่อเนื่องกว่าร้อยละ 15
ธุรกิจจึงควรปรับตัวโดยใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงตลาดเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว การทำธุรกิจในระยะต่อไปคงต้องเตรียมความพร้อมรองรับช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย เพิ่มประสิทธิภาพการรับชำระเงินเพื่อให้เงินหมุนเวียนในธุรกิจได้รวดเร็ว การพัฒนาโลจิสติกส์และบริการจัดส่งที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ สร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ให้มีจุดเด่นและมีสินค้าทดแทนได้ยาก รวมไปถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันไปกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ในเวลาที่ผู้บริโภคต้องการ
ดังนั้นเทรนด์ธุรกิจในปี 2568 ล้วนเป็นการตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาดและการนำเทคโนโลยีมาใช้ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจำเป็นจะต้องนำไปปรับใช้
ข่าวแนะนำ