ตลาดยานยนต์ไทย 2568 ส่อแววฟื้น แต่สงครามราคายังคงอยู่ l การตลาดเงินล้าน

ฝ่ายวิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) คาดการณ์อุตสาหกรรมรถยนต์ จะเริ่มฟื้นตัวโดยประเมินว่า ปริมาณการผลิตรถยนต์ช่วงระหว่างปี 2567-2569 มีแนวโน้มหดตัวเฉลี่ยที่ร้อยละ 3.5 ถึง 2.5 ต่อปี เนื่องจากการหดตัวของตลาดในปี 2567 และการแข่งขันกับรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศมีมากขึ้น อย่างไรก็ดี คาดว่าระหว่างปี 2568-2569 ปริมาณการผลิตรถยนต์จะเริ่มกระเตื้องดีขึ้น

ส่วน ตลาดรถยนต์ในประเทศ คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวในปี 2568-2569 เช่นกัน โดยมีแรงหนุนด้านอุปสงค์จากกิจกรรมในภาคธุรกิจและการลงทุนที่จะกระเตื้องขึ้น ขณะที่ ภาคการท่องเที่ยวจะเติบโตต่อเนื่องและกลับสู่ระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด จะช่วยกระตุ้นความต้องการรถยนต์นั่งเพื่อการเดินทางให้สูงขึ้น 

ขณะเดียวกัน การเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน จะหนุนยอดสั่งซื้อรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เพื่อใช้ในการขนส่ง และ การเข้าสู่ปรากฏการณ์ ลานีญา ที่ทำให้ปริมาณฝนเพิ่มขึ้น จะเอื้อต่อผลผลิตภาคเกษตรซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการใช้รถกระบะเพื่อบรรทุกพืชผลเกษตรมากขึ้น

และยังมีปัจจัยหนุนอื่น ๆ เช่น กลยุทธ์ส่งเสริมการขาย และสงครามราคาที่รุนแรงขึ้นทั้งในกลุ่มรถ BEV ด้วยกัน และการพัฒนาโมเดลใหม่ของรถยนต์นั่ง ICE เพื่อแข่งกับรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนแนวโน้มการลดลงของจานวนรถถูกยึด จะส่งผลให้ราคารถยนต์มือสองปรับสูงขึ้น เอื้อโอกาสให้ผู้บริโภคบางส่วนตัดสินใจซื้อรถยนต์คันใหม่หลังจากขายรถคันเดิมมากขึ้น และ แนวโน้มการขยายตัวต่อเนื่องของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจากมาตรการ EV 3.5 ที่จะกระตุ้นกาลังซื้อ รวมทั้งการพัฒนาโมเดลและประสิทธิภาพรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะระยะทางวิ่งต่อการชาร์จ

สำหรับยอดส่งออกรถยนต์ ฝ่ายวิจัยกรุงศรี คาดการณ์ว่า มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย ร้อยละ 1 -2 ต่อปี โดยในปี 2567 อาจยังทรงตัวหรือหดตัวเล็กน้อย แต่จะขยายตัวในช่วงปี 2568-2569 ตามทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจและภาวะกระเตื้องขึ้นของการลงทุนในประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะตลาดอาเซียน ที่จะได้อานิสงส์จากการเข้าไปลงทุนขยายฐานการผลิตจากจีนและญี่ปุ่น

อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตรถยนต์ จะเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงจากการแข่งขันของตลาดและสงครามราคาที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องต่อไป