คลังโอนเงินหมื่นระยะ 3 ไตรมาส2ปี68

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบเดินหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 ระยะที่ 2 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กรอบวงเงิน 40,000 ล้านบาท คาดจำนวนรับสิทธิ 4 ล้านคน โดยขั้นตอนต่อไปกระทรวงการคลังจะมีการนัดหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุม และตรวจสอบคุณสมบัติผู้รับสิทธิ ยืนยันว่า ผู้สูงอายุจะได้รับเงินก่อนสิ้นเดือน มกาคม 2568 

ขั้นตอนตรวจสอบรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติจะเห็นรายละเอียดช่วงต้นปี 2568 โดยจะมีการประกาศตรวจสอบสิทธิได้ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ ที่ลงทะเบียนไว้ และต่อไปจะเดินหน้าโครงการดิจิทัล ระยะที่ 3 สำหรับประชาชนกลุ่มทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2568

สำหรับการเดินหน้าโครงการดิจิทัล ระยะ 3 นั้น มีวงเงินงบประมาณดำเนินโครงการ 140,000-150,000 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้สรุปว่าจะใช้วงเงินทั้งหมดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ส่งความเห็นมายังหน่วยงาน ให้พิจารณานำงบประมาณไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ซึ่งเราก็รับฟัง แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว 

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว ถือเป็นหนึ่งในของขวัญปีใหม่ที่กระทรวงการคลังมอบให้ประชาชน โดยจะเห็นว่าช่วงปลายปีนี้ ไปจนถึงไตรมาสแรก ของปี 2568  รัฐได้ออกโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ของปี 2567 ผ่านการแจกเงิน 10,000 บาท ให้กับกลุ่มเปราะบาง และผู้พิการ เม็ดเงิน 145,000 ล้านบาท 

ขณะที่ในช่วงเดือนธันวาคม 2567 นี้ ได้ดำเนินการโอนเงินไร่ละ 1,000 บาท ดูแลเกษตรกร เม็ดเงินกว่า 30,000 านบาท และจะมีเม็ดเงินจากโครงการแจกเงินผู้สูงอายุ 10,000 บาท เม็ดเงิน 40,000 ล้านบาท รวมถึงการเดินหน้าโครงการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt คาดมีเงินหมุนเวียน 70,000 ล้านบาท 

ดังนั้น ในช่วงเดือนธันวาคม 2567 –กุมภาพันธ์ 2568 ก็จะมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีกว่า 150,000 ล้านบาท โดยคาดว่าทั้ง 3 โครงการจะสร้างเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจกว่า 350,00 ล้านบาท เนื่องจากรัฐบาลต้องการดูแลเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เมื่อจบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสแรก ของปี 2568 แล้ว ไตรมาส 2 เราก็จะเริ่มเดินหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัล ระยะ 3 เพื่อเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจ ปี 2568 เติบโตตามเป้าหมายที่ร้อยละ 3

ที่มา TNN