ตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก เร่งนโยบายอุ้มค่าเงิน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางของประเทศตลาดใหม่ ต่างกำลังเร่งดำเนินการเพื่อรับมือกับผลกระทบจากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งทำให้สกุลเงินของประเทศต่าง ๆ อ่อนค่าลงอย่างหนัก และร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายปี

นับตั้งแต่สิ้นเดือนก.ย. ดัชนีสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ ของ MSCI ลดลง 3.3% ซึ่งถือเป็นการลดลงรายไตรมาสที่รุนแรงที่สุดในรอบ 2 ปี โดยการลดลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลงในปี 2568 ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น

ความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐ กำลังสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อเศรษฐกิจทั่วโลก โดยโดยเงินวอนเกาหลีใต้ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี

 

ขณะที่ เงินรูปีอินเดียและเงินเรียลบราซิล ต่างร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งการที่สกุลเงินอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ยิ่งกดดันต่อภาคการนำเข้าและเงินเฟ้อ อีกทั้งยังส่งผลให้ต้นทุนในการชำระหนี้ที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศสูงขึ้น

ผู้กำหนดนโยบายในตลาดเกิดใหม่ ต่างกำลังเพิ่มมาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพของสกุลเงิน รวมถึง

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ประกาศเพิ่มเพดานการถือครองสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า

ธนาคารกลางจีน (PBOC) ยังคงสนับสนุนเงินหยวนโดยกำหนดอัตราค่ากลางเงินรายวันให้สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เป็นอย่างมาก

ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) ได้เพิ่มการแทรกแซงในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 

ธนาคารกลางบราซิล (BCB) ได้อัดฉีดเม็ดเงินเกือบ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินเรียล

และธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) สนับสนุนค่าเงินรูเปียห์และฟื้นฟูความเชื่อมั่นของตลาด

ความพยายามเหล่านี้มาพร้อมกับต้นทุน เนื่องจากธนาคารกลางถูกบังคับให้ถอนเงินสำรองเงินตราต่างประเทศออกมาใช้ เพื่อปกป้องสกุลเงินของตน