SCB EIC ชี้นโยบายทรัมป์กดจีดีพีปี 68 โตต่ำ
SCB EIC ได้ลดประมาณการณ์ทั้งเศรษฐโลกและเศรษฐกิจไทย ในปี 2568 ลง จากแรงกดดันนโยบายทรัมป์ 2.0 ที่เป็นตัวเร่งปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และการกีดกันการค้าที่รุนแรงขึ้น
ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Economic Intelligence Center (EIC) และรองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานกลยุทธ์องค์กร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า SCB EIC ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกปี 2568 เหลือร้อยละ 2.5 จากเดิมที่เคยตั้งไว้ร้อยละ 2.8 ซึ่งเป็นผลจากนโยบายทรัมป์ 2.0 ซึ่งเป็นตัวเร่งปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และการกีดกันการค้าให้รุนแรงขึ้น กระทบเศรษฐกิจโลกผ่านการค้า การลงทุน และแรงงานเป็นหลัก
ขณะที่ทิศทางการผ่อนคลายนโยบายการเงินโลกจะเริ่มแตกต่างกันและมีความไม่แน่นอนสูง โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่เคยประเมินไว้ เพื่อรองรับความเสี่ยงเงินเฟ้อในสหรัฐฯ
อีกทั้ง ราคาพลังงานโลกมีแนวโน้มต่ำลงตามอุปสงค์โลกและการเพิ่มกำลังการผลิตในสหรัฐฯ จากนโยบายสนับสนุนของทรัมป์ ส่งผลให้ธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางจีนมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยมากกว่าคาดการณ์เดิม เพื่อดูแลเศรษฐกิจ
เมื่อมาดูที่เศรษฐกิจไทยแม้ไตรมาสสุดท้ายปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวดี SCB EIC แต่ปี 2568 น่าจะเติบโตได้เพียงร้อยละ 2.4 จากเดิมที่คาดไว้ร้อยละ 2.6
โดยมีแรงกดดันจากจากนโยบายทรัมป์ เพราะไทยมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ซึ่งกว่าร้อยละ 70 ของสินค้าส่งออกไทยไปสหรัฐฯ เป็นกลุ่มสินค้าที่สหรัฐฯ จะตั้งเป้าลดการขาดดุลการค้าอาทิ อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องจักรและคอมพิวเตอร์
นอกจากนี้ ปัญหาสินค้าจีนที่ทะลักเข้ามาไทย กดดันความสามารถการแข่งขันของสินค้าไทยส่งผลให้การส่งออกไทยเริ่มชะลอตัว ซ้ำเติมภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่ยังไม่ฟื้นตัว ท่ามกลางแรงกระตุ้นการคลังที่จะออกมาเพิ่มเติมในปีหน้า
พร้อมกันนี้ SCB EIC ประเมินว่า กนง. จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งร้อยละ 0.25 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ไปอยู่ที่ร้อยละ 2 และคงที่ไปตลอดช่วงที่เหลือของปี ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ และลดผลกระทบภาวะการเงินตึงตัวต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ พร้อมกันนี้ประเมินการบริโภค ขยายตัวร้อยละ 2.5 ส่งออกเติบโตร้อยละ 2 และยอดนักท่องเที่ยว อยู่ที่ราว 38 ล้านคน
ข่าวแนะนำ