"เซ็นทรัล" ทุ่ม 4,000 ล้าน พลิกโฉมสาขาชิดลมครั้งใหญ่ l การตลาดเงินล้าน
เซ็นทรัลชิดลม รีโนเวทครั้งใหญ่สุดในรอบ 50 ปี ด้วยเม็ดเงิน 4,000 ล้านบาท พลิกโฉมใหม่ทั้งหมด ปักหมุดการชอปปิงสินค้าหรู สอดรับตลาดสินค้าหรูในไทยที่กำลังเติบโต
ภายใต้งบลงทุน 4,000 ล้านบาทในครั้งนี้ เป็นการปรับโฉมใหม่ทั้งหมดของห้างเซ็นทรัลชิดลม ทั้งภายในและภายนอก มีการสร้างเอกลักษณ์ใหม่ด้วยสี ซึ่งต่างจากสีแดง ที่เป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มเซ็นทรัล แต่ที่ เซ็นทรัล ชิดลม แห่งนี้ จะถูกเนรมิตใหม่ให้เป็น สีชมพู หรือเรียกว่า ชิดลม พิงก์ ซึ่งจะมีการออกแบบและตกแต่งใหม่ด้วยธีมสีชมพู ทั้งภายในตัวอาคาร และภายนอกอาคาร ตลอดจนการเปลี่ยนโลโก้ใหม่ สีใหม่ เปลี่ยนสีถุงชอปปิงใหม่ และเปลี่ยน แม้กระทั่งชุดยูนิฟอร์มของพนักงาน ก็เน้นจุดเด่นด้วย สีชมพู เพื่อให้ดูทันสมัย และหรูหรามากขึ้นกว่าเดิม
คุณ ณัฐธีรา บุญศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ทาง กลุ่มฯ ต้องการทำให้ เซ็นทรัลชิดลม เป็นห้างลักชัวรีระดับโลกที่สมบูรณ์แบบที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ และเพื่อสอดรับกับโอกาสการเติบโตของตลาดลักชัวรีในไทย ที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
ด้านลูกค้า พบว่า กลุ่มที่มีกำลังซื้อระดับบนในประเทศ ก็ยังมีการใช้จ่ายอยู่มาก สะท้อนว่าลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ปัจจุบัน เซ็นทรัลมีฐานลูกค้าอยู่หลายกลุ่ม แต่หากดูเฉพาะกลุ่ม เวลธ์ แอนด์ พรีเมียม จะมีจำนวนประมาณ 7,000 คน (ที่เป็นฐานลูกค้าของเซ็นทรัล) ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ มีการใช้จ่าย ต่อคน ต่อปี อยู่ที่ประมาณ 600,000 บาท ถือเป็นยอดการใช้จ่าย เทียบเท่ากับลูกค้าในห้างยุโรปของกลุ่มเซ็นทรัล
คุณ ณัฐธีรา กล่าวอีกว่า เซ็นทรัลมีฐานลูกค้ากลุ่มดังกล่าวนี้อยู่แล้ว โจทย์ถัดไปคือทำอย่างไรที่จะให้พวกเขายังคงใช้จ่าย หรือซื้อสินค้าแบรนด์หรูภายในประเทศ โดยไม่ไปซื้อที่ต่างประเทศ ซึ่งสิ่งที่จะเอาชนะได้ คือการบริการที่เป็นเลิศ และการมีสินค้าเอ็กซ์คลูซีพ มีเฉพาะในไทย
สำหรับ เซ็นทรัลชิดลม การเป็น ลักชัวรี ดีพาร์ตเมนต์สโตร์ ระดับโลก นอกจากการออกแบบตกแต่งใหม่ทั้งหมดแล้ว ในเรื่องกลุ่มสินค้าแบรนด์หรู จะมีการคัดสรรสินค้า เช่น การรวมผลิตภัณฑ์ความงามระดับโลกมากกว่า 150 แบรนด์ แบรนด์แฟชันกว่า 500 แบรนด์ รวมถึงแบรนด์ เอ็กซ์คลูซีฟ ที่นำมาจำหน่ายที่เซ็นทรัลชิดลม เป็นแห่งแรกในประเทศ ส่วนโซน สนีกเกอร์ บูเลอวาร์ด แอนด์ สตรีตแวร์ สตูดิโอ จะมีรุ่นหายากจากหลากหลายแบรนด์มากกว่า 800 คู่ และแผนกอื่น ๆ เช่น แผนกของใช้ในบ้าน แผนกแม่และเด็ก ที่มีสินค้าจาก 400 แบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลก เป็นต้น
รวมทั้ง จะมีบริการเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการชอปปิง ผ่านบริการเช่น บริการผู้ช่วยส่วนตัวในการช้อปปิง, บริการผู้เชี่ยวชาญในการเลือกสินค้าในสไตล์ของลูกค้า (หน้าที่การบริการจะคล้ายกับบัดเลอร์), ยังมีแอปพลิเคชันที่ให้ลูกค้าช้อปสะดวก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน และการใช้ AI หรือ ดาตา อนาลิติก มาวิเคราะห์การทำเสนอสินค้าและบริการ ตลอดจนจัดห้องรับรองพิเศษ และพื้นที่สำหรับพักผ่อนสำหรับลูกค้าอีกด้วย
ซึ่งทั้งหมดจะทำให้ เซ็นทรัลชิดลม จะยังทำให้เป็นพื้นที่ ที่เชื่อมคนทุกเจเนอเรชัน และเป็นคอมมูนิตี้สำหรับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่มีความมั่งคั่งสูง กลุ่มครอบครัว คนรุ่นใหม่ ทั้งเจน วาย หรือ เจน ซี และกลุ่มลูกค้าต่างชาติ
ทั้งนี้ เซ็นทรัล ชิดลม ยังมีแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของห้าง คือ นัม จู ฮยอก (Nam Joo Hyuk) นักแสดงและนายแบบชาวเกาหลีใต้ ซึ่งคุณ ณัฐธีรา บอกว่า จะมาร่วมสะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นตัวตนอย่างมีอิสระ ด้วยแนวคิดที่ว่า ความลักชูรีไม่ได้ถูกกำหนดด้วยราคาเท่านั้น แต่มาจากการสร้างเอกลักษณ์และรสนิยมของทุกคนในแต่ละสไตล์ ซึ่งคุณ นัม จู ฮยอก จะมาสะท้อนและสื่อสารแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมาย
ปัจจุบัน เซ็นทรัลชิดลม ที่รีโนเวทแล้ว เปิดให้บริการได้ราว ร้อยละ 85 ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน ถึง 30 พฤศจิกายน 2567 มียอดขายเติบโตสูงถึงร้อยละ 25 และมีผู้เข้าใช้บริการกว่า 25,000 คนต่อวัน คาดว่าในปี 2568 เมื่อเปิดบริการอย่างสมบูรณ์แล้ว ตั้งเป้าจะสร้างการเติบโตของยอดขายเพิ่มเป็นร้อยละ 30 และมีผู้เข้าใช้บริการกว่า 30,000 คนต่อวัน
โดยกลุ่มลูกค้า ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มลูกค้าคนไทยร้อยละ 80 และต่างชาติ อีกร้อยละ 20 ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวทั้งจากตะวันออกกลาง ซีแอลเอ็มวี และ จีน ที่เริ่มกลับมามากขึ้นแล้ว แต่ยังไม่เท่ากับช่วงก่อนโควิด
สำหรับกลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ปัจจุบันมี เซ็นทรัล ดีพาร์ตเมนต์สโตร์ จำนวนทั้งหมด 29 สาขา และโรบินสันอีก 47 สาขา โดยเซ็นทรัล ชิดลม เป็นสาขาที่มียอดขายสูงสุด และมียอดขายการใช้จ่ายของลูกค้าต่อครั้งอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาท หากเทียบกับสาขาอื่น ๆ จะมียอดการใช้จ่ายต่อครั้งอยู่ที่เฉลี่ย 10,000 บาท
ข่าวแนะนำ