สมอ.เตรียมเข้มสินค้ารับมารตฐาน EUDR
“เอกนัฏ” เร่ง สมอ. ปรับมาตรฐาน และเตรียมระบบการตรวจสอบรับรองการจัดการสวนป่าอย่างยั่งยืน ให้สอดคล้องกับกฎหมาย EUDR ของสหภาพยุโรป
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้า ภายหลังจากที่ได้มีการหารือร่วมกับคณะผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถึงแนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการไทย จากกรณีที่สหภาพยุโรป (EU) ได้ออกกฎหมายว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า หรือ EUDR (EU Deforestation Regulation) ควบคุมผู้ส่งออก 7 กลุ่มสินค้า ได้แก่ โกโก้ กาแฟ ถั่วเหลือง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน โค และไม้ รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ถูกผลิตขึ้นมาจากสินค้าพื้นฐานเหล่านี้ อาทิ ช็อคโกแลต เฟอร์นิเจอร์ไม้ ยางรถยนต์ เป็นต้น
ซึ่งในการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายในตลาดสหภาพยุโรป ต้องผ่านเงื่อนไข 3 ข้อ คือ 1) สินค้าต้องไม่มาจากการบุกรุกพื้นที่ป่า 2) สินค้าต้องมีกระบวนการผลิตที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศผู้ผลิต และ 3) ต้องมีการตรวจสอบสถานะและประเมินสินค้า ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะมีผลในทางปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป
โดยได้สั่งการให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ทบทวนมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง ให้สอดคล้องกับมาตรการ EUDR เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการนำไปใช้
ด้านนายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของ สมอ. ได้เตรียมการรองรับกับมาตรการดังกล่าวจะเร่งดำเนินการผลักดันให้ EU ยอมรับสินค้าไทยที่มาจากแหล่งผลิตที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐาน เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นแก่ประเทศคู่ค้าว่า สินค้าไทยเป็นไปตามเงื่อนไขของกฎหมาย EUDR โดยใช้กลไกในการตรวจสอบรับรองตามมาตรฐานระบบการจัดการสวนป่าไม้เศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ที่ สมอ.ให้การรับรองแก่ผู้ประกอบการ ที่ดำเนินการตามมาตรฐานดังกล่าว
ซึ่งมีข้อกำหนดที่สำคัญ คือ ปกป้องสิ่งแวดล้อม และการใช้แรงงานที่ถูกกฎหมาย ไม่บุกรุกพื้นที่ป่า โดยคาดว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สหภาพยุโรปในการนำเข้าสินค้าที่มาจากผู้ประกอบการในประเทศไทย ซึ่ง สมอ. จะดำเนินการเจรจากับ EU ให้ยอมรับผลการตรวจสอบรับรองภายใต้การรับรองระบบงาน (accreditation) ของ สมอ. ต่อไป
ที่มา TNN
ข่าวแนะนำ