"ทอท." มุ่งสู่ "คาร์บอนซีโร่" ความท้าทาย "สนามบินไทย" สู่ความยั่งยืน

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงทิศทางการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน พร้อมรายงานภาพรวมการฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิด-19 ว่า ในปีที่ผ่านมามีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 120 ล้านคน โดยผู้โดยสารในประเทศเติบโต 1% ขณะที่ผู้โดยสารต่างประเทศเติบโตสูงถึง 38.4% โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน อินเดีย และเกาหลี ส่งผลให้ไทยกลับมาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียอีกครั้ง

สำหรับแผนการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีการก่อสร้าง SAT 1 และเปิดรันเวย์ที่ 3 เพื่อลดความแออัด พร้อมขยายเทอร์มินัลด้านใต้ตามแผนแม่บท เพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 70 ล้านคนต่อปี และมีเป้าหมายขยายขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารสูงสุดถึง 150 ล้านคนต่อปีในอนาคต

ขณะที่ท่าอากาศยานในภูมิภาค มีแผนขยายท่าอากาศยานดอนเมืองด้วยการสร้างอินเตอร์เทอร์มินัลใหม่ เพิ่มความสามารถรองรับผู้โดยสารเป็น 40 ล้านคนต่อปี ส่วนท่าอากาศยานภูเก็ตจะเพิ่มพื้นที่อินเตอร์เทอร์มินัลเชื่อมโยงเกาะต่างๆ พร้อมปรับปรุงท่าอากาศยานเชียงใหม่และหาดใหญ่ รวมถึงพัฒนาท่าอากาศยานพังงาแห่งใหม่

ด้านการยกระดับการให้บริการ ทอท. นำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ อาทิ ระบบเช็คอินอัตโนมัติ ระบบตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ และเทคโนโลยีไบโอเมติกส์ เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วและความปลอดภัย พร้อมเพิ่มบริการพื้นที่เกมโซนและโคเวิร์กกิ้งสเปซ

นอกจากนี้ ทอท. ยังมุ่งสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนซีโร่ ด้วยการติดตั้งโซลาร์ฟาร์มบริเวณพื้นที่ข้างรันเวย์ เพื่อผลิตพลังงานสะอาดใช้ในเทอร์มินัลและระบบขนส่งภายในสนามบิน พร้อมพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ด้วยการจัดการน้ำมันซาร์บและวางแผนผลิตน้ำประปาใช้เองจากระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อลดการพึ่งพาแหล่งน้ำภายนอก

ภาพ TNN