โพลรอยเตอร์ชี้ “เศรษฐกิจโลก”แนวโน้มโตร้อยละ 3

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตามผลสำรวจของรอยเตอร์ที่สอบถามนักเศรษฐศาสตร์ราว 500 คน ซึ่งดำเนินการระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 30 ตุลาคม ครอบคลุม 50 เศรษฐกิจสำคัญ โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2568 เนื่องจากธนาคารกลางหลักๆ ต่างดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง โดยการเลือกตั้งสหรัฐที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดในสัปดาห์หน้า อาจจำกัดภาพการเติบโตได้ และอาจส่งผลกระทบถึงการแข่งขันทางการค้า

นอกจากนี้นักเศรษฐศาสตร์ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกปี 2567 อย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ต้นปี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังลดลงอย่างรวดเร็ว โดยธนาคารกลางหลักส่วนใหญ่สามารถรับมือกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อได้ในระยะที่สามารถบรรลุได้หรือถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้แล้ว

โดยคาดว่าเศรษฐกิจทั่วโลกเติบโตจะอยู่ที่ 3.1% โดยเฉลี่ยในปี 2567 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 2.6% ในการสำรวจเมื่อเดือนมกราคม และเพิ่มขึ้นจาก 2.9% ในเดือนเมษายน และทรงตัวเมื่อเทียบกับการสำรวจเมื่อ 3 เดือนก่อน ขณะเดียวกันคาดว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะอยู่ที่ 3.0% ในปี 2568 ซึ่งการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งรายงานครั้งล่าสุดอยู่ที่ 2.8% และขับเคลื่อนโดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่งคาดว่าจะอยู่ที่เฉลี่ย 2.6% ในปีนี้ และ 1.9% ในปี 2568

นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐไม่เพียงแต่เติบโตแซงหน้าประเทศ G10 เท่านั้น แต่ยังเติบโตเกือบ 2 เท่าของอัตราที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้เมื่อต้นปี ตลาดหุ้นสหรัฐกำลังซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเงินที่ไหลเข้าจากต่างประเทศ

ขณะเดียวกัน จุดแข็งอีกประการหนึ่ง คือ อินเดีย ซึ่งเป็นเศรษฐกิจโลกที่สำคัญและเติบโตรวดเร็วที่สุด รวมทั้งความสามารถในการฟื้นตัวที่กว้างขวางในเอเชีย ขณะที่เมื่อเร็วๆ นี้ ญี่ปุ่นมีผลผลิตที่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะสามารถดำเนินมาตรการเริ่มต้นเล็กๆ น้อยๆ เพื่อยุติการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนปรนเป็นพิเศษมาหลายทศวรรษได้ แม้แต่เศรษฐกิจอาร์เจนตินาที่กำลังประสบปัญหาก็พร้อมที่จะฟื้นตัวในปีหน้า

ที่มา รอยเตอร์