TNN แบงก์รัฐ - พาณิชย์ ทยอยลดดอกเบี้ย บรรเทาภาระหนี้ปชช.

TNN

เศรษฐกิจ

แบงก์รัฐ - พาณิชย์ ทยอยลดดอกเบี้ย บรรเทาภาระหนี้ปชช.

แบงก์รัฐ - พาณิชย์ ทยอยลดดอกเบี้ย บรรเทาภาระหนี้ปชช.

แบงก์รัฐ - พาณิชย์ ทยอยลดอัตราดอกเบี้ย "กสิกรไทย" นำร่องเป็นแบงก์แรก บรรเทาภาระหนี้ประชาชน โดยเฉพาะรายย่อย

นายจงรัก รัตนเพียร ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารพร้อมตอบรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง.จึงปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมสูงสุด ร้อยละ 0.25  โดยให้มีผลในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไปเพื่อช่วยดูแลและเพิ่มสภาพคล่อง โดยแบ่งเบาภาระดอกเบี้ยให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะลูกค้ารายย่อย และผู้ประกอบการรายเล็กที่รายได้ยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัว และภาระหนี้ยังอยู่ในระดับสูง อีกทั้งยังเป็นการช่วยพยุง และรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน


นอกจากนี้ ยังขยายเวลาโครงการช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบางไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เพื่อช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติมให้สามารถปรับตัวในช่วงภาวะเศรษฐกิจที่ยังเติบโตแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วนและยังคงมีความเสี่ยงจากหลายปัจจัย


เช่นเดียวกับ นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ได้พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด ร้อยละ 0.25 ต่อปี เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้ของลูกค้ารายย่อยและผู้ประกอบการภาคธุรกิจ โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) จากปัจจุบันอยู่ที่ ร้อยละ 7.575 เป็น ร้อยละ 7.325  ต่อปี 


อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR)เป็น ร้อยละ 7.175 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR)เป็น ร้อยละ 6.925% ต่อปี และมีผลในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป


ขณะที่ ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี)  พร้อมขานรับนโยบาย กนง.ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย MOR ลดลงร้อยละ  0.25 ต่อปี ส่วนอัตราดอกเบี้ย MLR และอัตราดอกเบี้ย MRR ลดลง ร้อยละ 0.125 ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป


ด้าน นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส. ได้พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงสูงสุด ร้อยละ 0.25 ต่อปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. และสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ประกอบด้วย อัตราดอกเบี้ย MRR  ร้อยละลดลง 0.10 ต่อปี เหลือ ร้อยละ 6.875 ต่อปี 


กรณีลูกค้าเกษตรกรกลุ่มเปราะบางและ SMEs ที่ประสบปัญหาในการผลิตจนทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง รวมถึงลูกหนี้ NPLs ที่อยู่ระหว่างปรับปรุงโครงสร้างหนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MRR ปรับลดลง ร้อยละ 0.25 ต่อปี เหลือ ร้อยละ6.725 ต่อปี ซึ่งเป็นการขยายระยะเวลาออกไปอีกเป็นเวลา 5 เดือน ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2567 จนถึง 31 มีนาคม 2568 ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงิน MOR เหลือ ร้อยละ6.875  ต่อปี


ขณะเดียวกัน ธ.ก.ส. พร้อมตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทุกประเภทออกไปให้นานที่สุด เพื่อส่งเสริมวินัยการออมเงินและร่วมสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง


ภาพจาก: Getty Images 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง