ส.อ.ท.หวังเงินบาทอ่อน 35 หนุนส่งออก

นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า มติคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ที่มีการลดดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่เอกชนเรียกร้องมาตลอด ผลดีคือจะได้เกิดความต่อเนื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดต้นทุนทั้งของประชาชนและภาคธุรกิจ และเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลง ส่งผลดีต่อเรื่องของการส่งออกและการท่องเที่ยว ส่งผลให้ความมั่นใจตลาดหุ้นและนักลงทุนดีขึ้น ในส่วนค่าเงินบาทขณะนี้ 32-33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ คงแข็งค่าเกินไป ภาคเอกชนคาดหวังว่าค่าเงินบาทจะขยับอยู่ในกรอบที่เหมาะสม ซึ่งคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) มองที่ 34-35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

สำหรับไทยเป็นประเทศขับเคลื่อนด้วยการส่งออกเป็นสำคัญ ภาวะค่าบาทอ่อนจะเหมาะสมและมีประโยชน์มากกว่า ส่วนบางฝ่ายมองว่าค่าบาทอ่อนส่งผลให้ไทยนำเข้าพลังงานในราคาสูงขึ้น คิดว่าไทยสามารถทำนโยบายลดการนำเข้าพลังงานลง และไปใช้พลังงานทางเลือกแทนได้ ซึ่งจะเป็นแก้ไขในระยะยาว เพราะต่อให้เงินบาทแข็ง แต่ราคาน้ำมันดิบ ราคาพลังงานโลกดีดขึ้น ไทยก็ตายอยู่ดี ส่วนตัวคิดว่าค่าเงินบาทแข็งไม่มีข้อดีเลย

ส่วน นโยบายที่รัฐบาลออกมาไม่ว่าจะแอ่วเหนือคนละครึ่ง ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงฤดูท่องเที่ยว(ไฮซีซั่น) ปีนี้ อย่างไรก็ดี สถานการณ์น้ำท่วม ภาวะฝุ่น PM2.5 กำลังมาปลายปี ส่งผลต่อเวลาเที่ยวน้อยลง เพื่อช่วยกระตุ้นต่อเนื่อง อยากให้รัฐบาลขยายการเที่ยวเมืองรองและเร่งทำโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ระยะที่ 2 ให้เร็วที่สุด ทันปลายปีนี้ได้ยิ่งดี

ส่วนนายปณิธาน ปวโรฬารวิทยา รองเลขาธิการ ส.อ.ท. กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 เป็นสัญญาณที่ดี ส่งผลให้ดอกเบี้ยของไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกับทั่วโลกและคู่แข่งที่ลดลง จากนี้ต้องติดตามอัตราแลกเปลี่ยน คาดจะอ่อนค่าลง อาจไม่ได้เร็วๆ นี้  หากอัตราแลกเปลี่ยนลดลงจะมีผลเรื่องต้นทุนและผลกำไรผู้ประกอบการ อัตราที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 34 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไม่ส่งผลกระทบที่ทำให้เงินไหลออกมากๆ

ที่มา TNN