พณ.ตรวจโรงสี ท่าข้าว หลังราคาหล่นตัน 8 พัน

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้สั่งการให้สายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดและนายตรวจชั่งตวงวัด ออกตรวจสอบการรับซื้อข้าวเปลือกของผู้ประกอบการโรงสีและท่าข้าวในพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญ ในช่วงที่ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด โดยเฉพาะพื้นที่เกิดน้ำท่วม ทั้งภาคเหนือตอนล่างซึ่งเป็นทางน้ำผ่านและภาคกลางซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ อาทิ กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี

ทั้งนี้ เพื่อดูแลไม่ให้มีการกดราคารับซื้อ และให้รหักลดน้ำหนักความชื้นและสิ่งเจือปนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยมีการแสดงราคารับซื้ออย่างชัดเจน เปิดเผย ไม่คิดค่าชั่งน้ำหนักข้าวเปลือกที่รับซื้อ รวมทั้งใช้เครื่องชั่งและเครื่องวัดความชื้นที่ผ่านคำรับรองถูกต้อง ตามนโยบายของ รมว.พาณิชย์ ที่ต้องการตรวจเข้ม ป้องปรามไม่ให้ฉวยโอกาสกดราคารับซื้อชาวนา

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบผู้ประกอบการรับซื้อข้าวเปลือก พบว่า ข้าวเปลือกเจ้า ความชื้นไม่เกิน 15% ราคา 9,300-9,800 บาทต่อตัน ข้าวเกี่ยวสด ความชื้น 25% ราคา 8,300 – 8,800 บาทต่อตัน ส่วนบางพื้นที่ข้าวเปลือกมีความชื้นสูง ราคาปรับลดตามคุณภาพความชื้น เนื่องจากเกษตรกรเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนกำหนด ประกอบกับมีผลตกชุกในพื้นที่ และจากการตรวจสอบวันที่ 7 ต.ค.67 พบผู้ประกอบการใช้เครื่องวัดความชื้นคำรับรองสิ้นอายุ 1 ราย นายตรวจชั่งตวงวัดได้จับกุมส่งพาณิชย์จังหวัดนครสวรรค์ ดำเนินการตาม มาตรา 70 แห่งพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 

นายอุดม กล่าวว่า ขอเตือนให้ผู้ประกอบการรับซื้อข้าวเปลือกปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีการกดราคารับซื้อ ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีไม่แสดงราคารับซื้อตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการรับซื้อ หรือมีการคิดค่าชั่งน้ำหนักข้าวเปลือกที่รับซื้อ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542

ที่มาTNN