ญี่ปุ่นพบบริษัทล้มละลายกว่า 4,990 แห่ง

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ญี่ปุ่นพบจำนวนการล้มละลายสูงสุดตั้งแต่ปี 2556 ในช่วง 6 เดือนสิ้นสุดเดือนกันยายน เนื่องจากบริษัทต่างๆ ได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รายงานของธนาคาร Teikoku Databank ระบุว่า มีบริษัทล้มละลายประมาณ 4,990 แห่งในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเพิ่มขึ้น 18.6% จากปีก่อนจำนวนบริษัทที่ล้มละลายในญี่ปุ่นยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีซึ่งสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2565

โดยจำนวนบริษัทที่ล้มละลายเพิ่มขึ้นสะท้อนถึงผลกระทบจากราคาที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทขนาดเล็ก จากรายงานระบุว่า บริษัท 472 แห่งจากทั้งหมด 4,990 แห่ง ระบุว่า เงินเฟ้อเป็นสาเหตุหลักที่บริษัทต้องล้มละลาย โดยมาตรวัดราคาหลักของประเทศอยู่ที่หรือสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่นมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว เนื่องจากเงินเยนที่อ่อนค่าทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าทุกประเภทตั้งแต่อาหารไปจนถึงพลังงานเพิ่มสูงขึ้น

รายงานระบุว่าการก่อสร้าง การผลิต และการค้าปลีก อยู่ในกลุ่มภาคส่วนที่มีการล้มละลายอันเนื่องมาจากต้นทุนมากที่สุด นอกเหนือจากราคาที่สูงขึ้นแล้ว บริษัท 163 แห่งยังระบุถึง ปัญหาการขาดแคลนแรงงานเป็นสาเหตุของปัญหาดังกล่าว อัตราการว่างงานของญี่ปุ่นยังคงอยู่ต่ำกว่า 3% เป็นเวลา 3 ปี ซึ่งเป็นระดับ ต่ำสุด ในกลุ่มเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว

ขณะที่ตลาดแรงงานที่ตึงตัวขึ้นทำให้บริษัทต่างๆ ต้องเผชิญกับแรงกดดันให้ปรับขึ้นเงินเดือนเพื่อรักษาพนักงานไว้ ส่งผลให้งบประมาณตึงตัวมากขึ้น แม้ว่าบริษัทญี่ปุ่นบางแห่งจะเสนอขึ้นเงินเดือนให้กับพนักงานมากกว่า 5% ในการเจรจาเรื่องเงินเดือนเมื่อต้นปีนี้ แต่บริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางหลายแห่งกลับรายงานว่าประสบปัญหาในการดำเนินการตาม

ที่มา บลูมเบิร์ก