TNN มือถือสามพับ "หัวเว่ย" ราคารีเซลทะลุ 2 แสนบาท l การตลาดเงินล้าน

TNN

เศรษฐกิจ

มือถือสามพับ "หัวเว่ย" ราคารีเซลทะลุ 2 แสนบาท l การตลาดเงินล้าน

Mate XT มือถือพับ 3 ทบ รุ่นแรกของโลก จาก Huawei ที่ยังมีจำหน่ายเฉพาะในจีนได้รับความสนใจล้นหลาม ทำให้เกิดกระแส การเก็งกำไรจนราคารีเซลพุ่งขึ้นหลายเท่าตัว

หัวเว่ย เมต เอ็กซ์ที (HUAWEI Mate XT) มีราคาเปิดตัว ด้วยราคาเริ่มต้น อยู่ที่ 19,999 หยวน หรือประมาณ 93,000 บาท สำหรับรุ่น 256 กิกะไบต์ ส่วนรุ่น 512 กิกะไบต์ มีราคาอยู่ที่ 21,999 หยวน และรุ่น 1 เทเลไบต์ (TB) ราคาที่ 23,999 หยวน หรือ 112,275 บาท

อีกทั้ง สร้างปรากฎการณ์ยอดจองมากกว่า 6.5 ล้านเครื่อง เป็นตัวเลขที่สูงเกือบ 2 เท่า ของสมาร์ตโฟนแบบพับได้ ที่มีการจัดส่งแล้วทั่วโลกช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ตามรายงานของ ไอดีซี (IDC)

จากกระแสความต้องการจำนวนมากนี้ สื่อต่างประเทศหลายราย รายงานว่า ทำให้ราคาขายต่อของ Mate XT พุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัวเลยทีเดียว

เซาต์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ รายงานว่า ความแรงจัดของ Huawei Mate XT ทำให้ผู้จำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ใน หัวเฉียงเป่ย (Huaqiangbei) ที่ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ในเมืองเซิ่นเจ้น ของประเทศจีน ปรับขึ้นราคาขายต่อมากกว่า 3 เท่าตัว 

ซึ่งตัวแทนจำหน่ายสมาร์ตโฟนมือสอง รายหนึ่ง ที่อยู่ในตลาดดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า มีนักเก็งกำไรจำนวนมากที่ต้องการขาย และทำกำไรจากส่วนต่างของราคา ทำให้ Mate XT รุ่น 256 กิกะไบต์ ราคาขึ้นจาก ราคาขายปกติที่ 19,999 หยวน และปรับขึ้นเป็น 60,000 หยวน ถึง 70,000 หยวน หรือ ประมาณ 280,000 - 327,000 บาทเลยทีเดียว

ส่วนตัวแทนจำหน่ายอีกราย บอกว่า ราคาขายต่อของ Mate XT เป็นเท่าไหร่ จะขึ้นอยู่กับว่าเขาจะสามารถซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นใดรุ่นหนึ่งมาขายต่อได้หรือไม่

นอกจากที่ตลาด หัวเฉียงเป่ย แล้ว ตัวแทนจำหน่ายในตลาดออนไลน์ ก็ปรับขึ้นราคาขายปลีกของ Mate XT ด้วยเช่นกัน เช่น ในแอป เซียนอวี่ (Xianyu) ซึ่งเป็นตลาดนัดออนไลน์ ของ อาลีบาบา กรุ๊ป ได้ปรับราคามือถือพับได้แบบ 3 ทบรุ่นนี้ จากเดิมที่โพสต์ไว้ ในราคา 30,000 หยวน ก็เพิ่มเป็น 100,000 หยวน 

ส่วน รอยเตอร์ รายงานว่า เจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือในตลาด หัวเฉียงเป่ย บอกว่า ขาย Mate XT รุ่นที่แพงที่สุด และที่มีหน่วยความจำสูงสุด อยู่ในราคา 150,000 หยวน (จากราคาปกติอยู่ที่ 23,999 หยวน) อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าขายได้หรือยัง เจ้าของร้านตอบว่า มีผู้สนใจสอบถามจำนวนมาก แต่ก็ยอมรับว่าราคาสูงเกินไป

ซีเอ็นบีซี ให้ข้อมูลในเรื่องราคาขายต่อ ว่า แพลตฟอร์มชอปปิงมือสองที่ชื่อ เซียงอวี่ (Xianyu) โพสต์ราคา Mate XT เมื่อเวลาบ่ายโมง ของวันศุกร์ที่ 20 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันแรกด้วย โดยราคาขายต่อบนแอป ดังกล่าว อยู่ระหว่าง 50,000 ถึง 60,000 หยวน 

นอกจากนี้ รอยเตอร์ รายงานด้วยว่า การเปิดขายวันแรกของ หัวเว่ย (เมื่อวันศุกร์ที่ 20 กันยายน) ต้องทำให้ลูกค้าที่มารอซื้อที่หน้าร้าน ต้องผิดหวัง และกลับบ้านไปด้วยมือเปล่า เนื่องจาก Mate XT ยังไม่มีจำหน่ายสำหรับลูกค้าที่ วอล์ก อิน เข้ามารอซื้อหน้าร้าน แต่จะมีสำหรับลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้าแล้วเท่านั้น

โดยนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง บอกกับทาง รอยเตอร์ส ว่า ไม่รู้มาก่อนว่า จะไม่มีการจำหน่ายหน้าร้านสำหรับลูกค้า วอล์ก อิน ซึ่งมารอที่หน้าร้านตั้งแต่เวลา 4 ทุ่มของคืนวันพฤหัสบดี ด้วยความรู้สึกตื่นเต้น และต้องการสนับสนุนสินค้าที่ผลิตในประเทศ แต่ก็น่าผิดหวังมากที่ไม่สามารถซื้อได้

ทั้งนี้ หัวเว่ย ได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าชาวจีนที่ต้องการอุดหนุนสินค้าในประเทศของตนเอง และชื่นชมวิธีเอาชนะการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2019 ด้วยพยายามที่จะสร้างธุรกิจสมาร์ตโฟนให้กลับขึ้นมาใหม่อีกครั้ง 

ขณะที่ เซาต์ไชน่า มอร์นิง โพสต์ รายงานว่า การเปิดจำหน่ายวันแรกของ Mate XT ทำให้ลูกค้าบางรายต้องผิดหวังกลับบ้าน เนื่องจากสินค้ามีจำนวนจำกัด โดยจะไม่มีจำหน่ายหน้าร้าน แต่จะมีสำหรับลูกค้าที่จองล่วงหน้าเท่านั้น 

ซึ่งลูกค้าที่จองล่วงหน้ารายหนึ่ง และได้รับสินค้าแล้ว บอกกับสื่อดังกล่าว ว่า ได้เดินทางมาการจอง ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน (เป็นวันแรกที่มีการเปิดให้จอง) ซึ่งพอได้จับของจริงแล้ว ก็รู้สึกดีมาก และตื่นเต้นมากด้วย เพราะมือถือรุ่นนี้ เป็นตัวแทนของเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดในประเทศจีน

ส่วนลูกค้าบางคน ที่ไม่ได้จองล่วงหน้า บอกว่า การที่เดินทางมาที่ร้านของ หัวเว่ย เพราะคาดหวังว่าจะมีคนออกมาขายต่อ ซึ่งหากราคาขายต่อจะสูงกว่าราคาปกติเล็กน้อย หรืออยู่ที่ประมาณ 26,000 หยวน ถือเป็นราคาที่พอรับได้ แต่ถ้าหากสูงกว่านั้น ก็ไม่เอา เพราะว่าแพงเกินไป

นอกจากนี้ จากกระแสความต้องการ ทำให้มี คาดการณ์ออกมา ว่าการจัดส่ง Mate XT ภายในปี 2567 นี้ น่าจะสูงถึง 500,000 เครื่อง ถึง 1 ล้านเครื่อง โดยเป็นคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ที่มีชื่อเสียงในวงการเทคโนโลยี ของ ทีเอฟ อินเตอร์เนชันแนล ซีเคียวริตี้ส์ (TF International Securities)


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง